Talk of The Town

เปิด 7 หุ้นใหญ่โดนขายชอร์ตสูงสุด BEM ขึ้นแชมป์ในเดือนก.พ.68 พบมูลค่าขายชอร์ตสูงกว่า 20.30%


20 กุมภาพันธ์ 2568

เปิด 7 หุ้นใหญ่โดนขายชอร์ตสูงสุด_S2T (เว็บ)_0.jpg

จากการสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพบว่า ตั้งแต่ต้นเดือนก.พ.ถึง 19 ก.พ.2568 พบว่าหุ้นที่มีสัดส่วน%การทำรายการชอร์ตมากสุด และมีสัดส่วนเกิน 10%ของมูลค่าการขายชอร์ตเทียบกับมูลค่าการซื้อขายรวม ขณะที่ตลาดรวมมีมูลค่าการทำรายการ 26,267.72 ล้านบาทคิดเป็น 4.42% มูลค่าการขายชอร์ตเทียบกับมูลค่าการซื้อขายรวม ประกอบด้วย 

BEM มูลค่าการขายชอร์ต 449,114,300.00 บาท คิดเป็น 20.30% มูลค่าการขายชอร์ตเทียบกับมูลค่าการซื้อขายรวม

IRPC มูลค่าการขายชอร์ต 48,506,036.00 บาท คิดเป็น 16.23% มูลค่าการขายชอร์ตเทียบกับมูลค่าการซื้อขายรวม

MAJOR มูลค่าการขายชอร์ต 10,914,920.00 บาท คิดเป็น 12.19% มูลค่าการขายชอร์ตเทียบกับมูลค่าการซื้อขายรวม

HMPRO มูลค่าการขายชอร์ต 360,145,240.00 บาท คิดเป็น 11.99% มูลค่าการขายชอร์ตเทียบกับมูลค่าการซื้อขายรวม

SCC มูลค่าการขายชอร์ต 579,107,500.00 บาท คิดเป็น 11.33% มูลค่าการขายชอร์ตเทียบกับมูลค่าการซื้อขายรวม

CRC มูลค่าการขายชอร์ต 334,174,200.00 บาท คิดเป็น 11.29% มูลค่าการขายชอร์ตเทียบกับมูลค่าการซื้อขายรวม

OR มูลค่าการขายชอร์ต 293,201,330.00 บาท คิดเป็น 10.21% มูลค่าการขายชอร์ตเทียบกับมูลค่าการซื้อขายรวม

บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุว่า ฝ่ายวิจัยมองประเด็นที่สําคัญที่สุดได้แก่การยกเลิก Uptick rule ซึ่งน่าจะทําให้ธุรกรรม Short sell ในตลาดกลับมาคึกคักอีกครั้ง เป็นบวกต่อวอลุ่มการซื้อขายให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 

สําหรับประเด็นการจํากัด Universe ของธุรกรรม Short sell ให้เหลืออยู่เฉพาะหุ้นในดัชนี SET100 นั้น มองว่าจะเป็นประโยชน์ต่อหุ้นในกลุ่ม Non-SET100 บางตัวที่ในช่วงที่ผ่านมามีมูลค่าธุรกรรม Short sell ในระดับสูง อาทิเช่น CPAXT, THCOM, MBK, KAMART, TKN, RBF, AAI เป็นต้น

BEM