กระดานข่าว

ORN โตสวนกระแสตลาดอสังหาฯ โชว์งบ Q4/67 กวาดรายได้ 545 ล้านบาท กำไรพุ่ง 476%


21 กุมภาพันธ์ 2568

ORN เผยผลงานไตรมาส 4/2567 กวาดรายได้ 545 ล้านบาท กำไรสุทธิ 75 ล้านบาทโต 476 % จากช่วงเดียวกันในปีก่อน หนุนผลการดำเนินงานทั้งปี 2567 รายได้รวม 1,362 ล้านบาท กำไรสุทธิ 140 ล้านบาท ปรับกลยุทธ์รับมือภาคอสังหาฯ ชะลอตัว มุ่งเน้นพัฒนาโครงการอสังหาฯ แนวสูง-แนวราบ โดดเด่นด้านดีไซน์ ฟังก์ชันการใช้งาน ขยายฐานลูกค้าต่างชาติ และกลุ่มเรียลดีมานด์ระดับกลาง-บน มั่นใจยอดขายปีนี้ดีต่อเนื่อง โชว์ Backlog 1,772 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ไตรมาส 1/2568 เตรียมเคาะจ่ายปันผลหุ้นละ 0.02 บาท

 S__10698774.jpg

นายปรีดิกร บูรณุปกรณ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) หรือ ORN เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2567 มีรายได้รวม 545 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 210 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 159 % และมีกำไรสุทธิ 75 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 476 %

ผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในช่วงไตรมาส 4/2567 เป็นผลจากความสำเร็จของการปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงชะลอตัว โดยมุ่งเน้นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ โดดเด่นด้านทำเลที่ตั้ง ดีไซน์ ฟังก์ชันการใช้งาน พิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก่อสร้างด้วยเทคโนโลยีที่มีมาตรฐาน สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าชาวต่างชาติ และกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ที่ต้องการที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ได้อย่างครอบคลุม

 อีกทั้ง กลยุทธ์ของนโยบายภาครัฐกระตุ้นภาคอสังหาฯ ช่วยกระตุ้นยอดขายโครงการแนวราบ-แนวสูงเติบโตต่อเนื่อง ได้แก่ โครงการแนวสูง แอสตร้า สกายริเวอร์ ,อะไรซ์ เจริญเมือง , อะไรซ์ ไวบ์ ภูเก็ต และ อะไรซ์ ฮิลล์ เชียงใหม่ โครงการแนวราบ ฮาบิแทท รวมโชค, บีลีฟ วงแหวน-สันกำแพง ทั้งนี้ แบ่งสัดส่วนเป็นกลุ่มลูกค้าชาวไทย 53% และชาวต่างชาติ 47 %

สำหรับผลประกอบการงวดปี 2567 มีรายได้รวม 1,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,111 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 140ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 180 ล้านบาท

“มั่นใจว่าการปรับกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัท จะช่วยผลักดันยอดขายในโครงการต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการขายทั้งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และภูเก็ต ให้ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นอย่างดี และมียอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ โดยปัจจุบันบริษัทมี Backlog รอรับรู้รายได้อยู่ที่ 1,772 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1/2568 เป็นต้นไป”นายปรีดิกร กล่าว 

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดในอัตรา 0.02 บาทต่อหุ้น รวมเป็นปันผลจ่ายทั้งสิ้นไม่เกิน 30 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2567 ที่ 21.34 % ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย ทั้งนี้การจ่ายปันผลที่ลดลงจากปีก่อน เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายโครงการใหม่ และลงทุนในธุรกิจของบริษัทย่อยเพื่อสร้างรายได้ประจำ โดยมติดังกล่าวเตรียมนำเสนอเพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 วันที่ 24 เม.ย. เพื่อพิจารณาต่อไป