รายงานพิเศษ : GUNKUL วางเป้ารายได้ปี 68 ทะลุ 1 หมื่นลบ. โดดเด่นสุด “หุ้นกลุ่มห่วงโซ่พลังงานครบวงจร”
GUNKUL มั่นใจ ผลงานปี 68 เติบโตโดดเด่น รายได้พุ่งเกิน 1 หมื่นล้านบาท จากการเป็นหุ้นในห่วงโซ่ของพลังงานทดแทน จากการทำธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง งานวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) และเทรดดิ้งอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า
บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL หนึ่งในหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทนที่พื้นฐานดี ธุรกิจมีความมั่นคง เติบโตในระยะยาว จากการเป็นห่วงโซ่พลังงานครบวงจร ทำให้มีรายได้กระจายไปในหลากหลายกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องและมีมาร์จิ้นที่ดี รวมไปถึงการคว้าโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆ เพิ่ม และทยอยเปิดขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพความสามารถในการคว้าขนาดใหญ่หลายโครงการจนทำให้สร้างรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่สำคัญผลักดันอนาคต โดยเฉพาะในปี 2568 บริษัทฯปักธง! รายได้เติบโตเกิน 10,000 ล้านบาท
คว้างานสายส่ง กฟผ. มูลค่า 673.70 ลบ.
นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เล่าให้ฟังว่า การดำเนินธุรกิจของ GUNKUL ไม่เคยหยุดนิ่ง ยังคงคิดและพัฒนาธุรกิจในทุกภาคส่วนให้เติบโตและก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน ล่าสุด บริษัท ฟิวเจอร์ อีเล็คทริคอล คอนโทรล จำกัด (FEC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GUNKUL และได้ทำกิจการร่วมค้า (Joint Venture) กับ China National Heavy Machinery Corporation (CHMC) ได้รับหนังสืออนุมัติว่าจ้างจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้เป็นผู้ดำเนินโครงการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูง 500 กิโลโวลต์ (500kV) ระยะทางประมาณ 37 กิโลเมตร จากสถานีไฟฟ้าแรงสูงบางละมุง 2 ถึงสถานีไฟฟ้าแรงสูงปลวกแดง
โครงการดังกล่าวดำเนินการในนาม THE JOINT VENTURE OF CHINA NATIONAL HEAVY MACHINERY CORPORATION & FUTURE ELECTRICAL CONTROL COMPANY LIMITED มูลค่า 622.04 ล้านบาท และ 1.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (USD) คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 673.70 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งครอบคลุมการจัดหาอุปกรณ์ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการขนส่งและติดตั้งอย่างครบถ้วน นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของบริษัทฯ โดยถือเป็นครั้งแรกที่ได้รับมอบหมายงานใหญ่จาก กฟผ.
โชว์ Backlog งาน EPC พุ่งแตะ 4 พันลบ.
ภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้รับงานจาก กฟผ. สนับสนุนงานในมือ (Backlog) ด้านงานรับเหมาและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) เพิ่มขึ้นเป็น 4,000 ล้านบาท และบริษัทฯ ยังมีงาน Submarine cable ที่เกาะสีชัง มูลค่าประมาณ 800 ล้านบาททยอยรับรู้รายได้แล้ว คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ และจะสนับสนุนให้ธุรกิจของ GUNKUL มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ประเมินธุรกิจปี 68 โดดเด่น
สำหรับทิศทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ในปี 2568 เชื่อว่า ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากปี 2567 เนื่องจากภาพรวมตลาดยังมีศักยภาพทั้งงานจากโครงการพลังงานทดแทนรอบใหม่ และงานของภาครัฐที่มีงบลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมตามความต้องการใช้ไฟฟ้า โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท หลักๆ มาจากการรับรู้รายได้ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) และเทรดดิ้งอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า
พร้อมกันนี้ ตั้งเป้างานในมือจากธุรกิจ EPC ไว้ที่ประมาณ 4,500 ล้านบาท ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าวางเป้ากำลังการผลิตเติบโต 35% ใน 2 ปีข้างหน้า หรือเพิ่มประมาณ 100-150 เมกะวัตต์ต่อปี จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่กว่า 1,500 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ามีเมกะวัตต์สะสมเพิ่มเป็น 2,000 เมกะวัตต์ในปี 2569
โครงการ 832 MW ทยอยจ่ายไฟปี 69
สำหรับโครงการพลังงานหมุนเวียนจำนวน 832 เมกะวัตต์ ทั้งโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มและโรงไฟฟ้าวินด์ฟาร์ม ที่ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ไปก่อนหน้านี้ จะทยอยเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ตั้งแต่ปี 2569-2573 คาดว่าจะใช้เงินลงทุนในส่วนนี้ประมาณ 38,000 ล้านบาท โดยล่าสุดยังมีเงินลงทุนเพียงพอ ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนยังอยู่ในระดับต่ำ พร้อมรองรับการเติบโตในอนาคต ซึ่งบริษัทฯ ยังคงดำเนินการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ทั้งโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มและโรงไฟฟ้าพลังงานลมอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯ มีการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคง โดยยึดหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามหลักธรรมาภิบาล ในมิติเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจเพื่อให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน จึงทำให้ได้รับคะแนนการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” จากโครงการสำรวจด้านการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2567 (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies 2024 : CGR) จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดย GUNKUL ถือเป็นองค์กรภาคเอกชนที่ได้รับการประเมิน CGR 5 ดาว ในระดับดีเลิศ ติดต่อกันเป็นเวลา 8 ปี