Talk of The Town
เปิดปม! กนง.ยอมหั่นดบ.หลังประเมินศก.พลาด เอกชนเรียกร้อง-ไอเอ็มเอฟเตือน เข้มงวดเกิน จับตาเดือนตุลาฯ ลดอีกรอบ
27 กุมภาพันธ์ 2568
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 2.25 เป็นร้อยละ 2.00 ต่อปี เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ โดยเฉพาะภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่ถูกกดดันจากปัญหาเชิงโครงสร้างและการแข่งขันจากสินค้าต่างประเทศ กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าควรลดดอกเบี้ยเพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและรองรับความเสี่ยงด้านต่ำที่ชัดเจนขึ้น

ขณะที่กรรมการ 1 ท่านเห็นควรคงดอกเบี้ยเพื่อรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต
กนง. ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มทรงตัวใกล้เคียงขอบล่างของกรอบเป้าหมาย แต่ไม่มีสัญญาณนำไปสู่ภาวะเงินฝืดหรือภาวะที่เงินเฟ้อติดลบต่อเนื่อง
ขณะที่ภาวะการเงินยังตึงตัว แม้การขยายตัวและคุณภาพของสินเชื่อในภาพรวมเริ่มมีสัญญาณทรงตัว แต่สินเชื่อ SMEs โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เผชิญปัญหาเชิงโครงสร้างยังหดตัวต่อเนื่อง และสินเชื่ออุปโภคบริโภคส่วนใหญ่ปรับลดลง ส่วนหนึ่งจากครัวเรือนที่รายได้ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่และมีภาระหนี้สูง
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ มองว่า การลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการยอมโอนอ่อนผ่อนตาม หลังจากที่ ธปท. คาดการณ์เศรษฐกิจดีกว่าที่ควรจะเป็น โดยเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้อย่างมีนัยสำคัญ (จาก 2.9% เป็นประมาณ 2.5%)
การลดดอกเบี้ยครั้งนี้ยังเป็นผลมาจากแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากหลายฝ่าย ทั้งรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภาคเอกชนที่เรียกร้องให้ลดดอกเบี้ยมาอย่างต่อเนื่อง และข้อเสนอแนะจาก IMF ที่มองว่าการดำเนินนโยบายการเงินของไทยอาจเข้มงวดเกินไป
อย่างไรก็ตาม เรามองว่าการลดดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวจะไม่เพียงพอต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญความท้าทายรอบด้าน เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงสูงจากนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐฯ
“เรามองว่า ความเสี่ยงหลักของการส่งออกไทยคือ มาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ที่อาจจะประกาศใช้ในเดือนเมษายน 2568 ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจไทยหดตัวกว่า 0.5% และการส่งออกไทยปี 2568 อาจหดตัวกว่าคาดการณ์เดิมที่ 1.0% แม้ว่าตัวเลขการส่งออกเดือนมกราคม 2568 จะขยายตัวสูงถึง 13.6% แต่ส่วนใหญ่เป็นผลจากปัจจัยพิเศษที่ไม่ยั่งยืน”
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ มองว่า ธปท. จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในการประชุมเดือนตุลาคม เมื่อข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังยืนยันแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจชัดเจนขึ้น

ขณะที่กรรมการ 1 ท่านเห็นควรคงดอกเบี้ยเพื่อรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต
กนง. ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มทรงตัวใกล้เคียงขอบล่างของกรอบเป้าหมาย แต่ไม่มีสัญญาณนำไปสู่ภาวะเงินฝืดหรือภาวะที่เงินเฟ้อติดลบต่อเนื่อง
ขณะที่ภาวะการเงินยังตึงตัว แม้การขยายตัวและคุณภาพของสินเชื่อในภาพรวมเริ่มมีสัญญาณทรงตัว แต่สินเชื่อ SMEs โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เผชิญปัญหาเชิงโครงสร้างยังหดตัวต่อเนื่อง และสินเชื่ออุปโภคบริโภคส่วนใหญ่ปรับลดลง ส่วนหนึ่งจากครัวเรือนที่รายได้ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่และมีภาระหนี้สูง
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ มองว่า การลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการยอมโอนอ่อนผ่อนตาม หลังจากที่ ธปท. คาดการณ์เศรษฐกิจดีกว่าที่ควรจะเป็น โดยเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้อย่างมีนัยสำคัญ (จาก 2.9% เป็นประมาณ 2.5%)
การลดดอกเบี้ยครั้งนี้ยังเป็นผลมาจากแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากหลายฝ่าย ทั้งรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภาคเอกชนที่เรียกร้องให้ลดดอกเบี้ยมาอย่างต่อเนื่อง และข้อเสนอแนะจาก IMF ที่มองว่าการดำเนินนโยบายการเงินของไทยอาจเข้มงวดเกินไป
อย่างไรก็ตาม เรามองว่าการลดดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวจะไม่เพียงพอต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญความท้าทายรอบด้าน เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงสูงจากนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐฯ
“เรามองว่า ความเสี่ยงหลักของการส่งออกไทยคือ มาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ที่อาจจะประกาศใช้ในเดือนเมษายน 2568 ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจไทยหดตัวกว่า 0.5% และการส่งออกไทยปี 2568 อาจหดตัวกว่าคาดการณ์เดิมที่ 1.0% แม้ว่าตัวเลขการส่งออกเดือนมกราคม 2568 จะขยายตัวสูงถึง 13.6% แต่ส่วนใหญ่เป็นผลจากปัจจัยพิเศษที่ไม่ยั่งยืน”
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ มองว่า ธปท. จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในการประชุมเดือนตุลาคม เมื่อข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังยืนยันแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจชัดเจนขึ้น
ยอดนิยม
%20copy_0.jpg)
CPF ดีกว่าคาดทุกบรรทัด! อวดงบปี 67 พลิกมีกำไร 1.9 หมื่นล้านบาท หลังต้นทุนลด ราคาหมูฟื้นตัว
%20copy_0.jpg)
OSP ผลงานแย่กว่าคาด! งบปี 67 กำไรสุทธิทรุดหนัก 31% โบรกฯ แนะ “ขาย” ให้เป้าเพียง 13 บาท
%20copy_0.jpg)
เปิดปม! กนง.ยอมหั่นดบ.หลังประเมินศก.พลาด เอกชนเรียกร้อง-ไอเอ็มเอฟเตือน เข้มงวดเกิน จับตาเดือนตุลาฯ ลดอีกรอบ
%20copy_0.jpg)
“บอย ท่าพระจันทร์” รับทรัพย์ โกยเงินปันผล JMART-JMT-TMAN ปี 67 รวมกันกว่า 21 ล้านบาท
%20copy_0.jpg)