เรื่องเด่นวันนี้

FPI ฐานแน่น! ปี 67 โชว์รายได้ 2,628.3 ลบ. กำไร 276.2 ลบ. บอร์ดเคาะจ่ายปันผลอีก 0.04 บ./หุ้น รับทรัพย์ 15 พ.ค.68


04 มีนาคม 2568

บมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) ฐานแน่น! ปี 67 โชว์รายได้ 2,628.3 ล้านบาท กำไรสุทธิ 276.2 ล้านบาท บอร์ดเคาะจ่ายเงินปันผลรวมปี67 อยู่ที่ 0.08 บาท/หุ้น โดยได้จ่ายระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกไปแล้ว 0.04 บาท/หุ้น ยังคงเหลือจ่ายอีก 0.04 บาท/หุ้น กำหนดขึ้น XD วันที่ 2 พฤษภาคม และจ่ายเงินปันผลวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ฟากบิ๊กบอส "สมพล ธนาดำรงศักดิ์"ระบุตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10% แตะระดับ 3,000 ล้านบาท ทำออลไทม์ไฮ เดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตรับออเดอร์ทะลักโดยเฉพาะจากลูกค้าในอินเดียและไทย ตุน Backlog แน่น 1,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ 2 ปี

คุณสมพล_New OK1_0 (2).jpg

นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (FPI) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2567 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2567) บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,628.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115.3 ล้านบาท หรือ 4.6% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราการส่งออกไปยังตะวันออกกลางที่เพิ่มสูงขึ้น ควบคู่กับการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขายของบริษัทย่อยในต่างประเทศ และบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 276.2 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 27.28% 

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2567 ในอัตรา  0.08 บาทต่อหุ้น ซึ่งบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวดวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง 30 มิถุนายน 2567 ในอัตรา 0.04 บาทต่อหุ้นดังนั้น จึงเหลืองวดดำเนินงานวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2567 อีก 0.04 บาทต่อหุ้น กำหนดวันขึ้น XD วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้จะต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งมีกำหนดจัดประชุมในวันที่ 25 เมษายน 2568

สำหรับปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ที่ระดับ 3,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 10% สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากปี2567 ซึ่งมีการลงทุนติดตั้งเครื่องจักรใหม่ พร้อมกับปรับปรุงระบบการจัดการภายในทั้งหมด รวมถึงระบบ ERP เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจของบริษัทลูกในประเทศอินเดีย 2 แห่ง มีแนวโน้มเติบโตอย่างโดดเด่น ทั้ง บริษัท เอฟพีไอ ออโต้ พาร์ท อินเดีย และ บริษัท อาร์บีเอส พลาสติก อินโนเวชั่น จำกัด ที่มีคำสั่งซื้อ OEM จากลูกค้าเข้ามาจำนวนมาก ขณะที่ลูกค้าในประเทศไทยก็มีแนวโน้มการเติบโตในทิศทางที่ดีเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ล่าสุดบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ใน 2 ปี

นอกจากนี้ในปี 2568 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คาดการณ์ปริมาณการผลิตรถยนต์อยู่ที่ประมาณ 1.50 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 2.1% และสำหรับตลาดอะไหล่ทดแทนจะเติบโตขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน เนื่องจากรถยนต์สะสมทั่วโลกในปี 2024 มียอดสูงถึง 2,140 ล้านคัน ทำให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าไปในตลาดต่างประเทศมากยิ่งขึ้น สำหรับชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นและเกาหลี นอกจากนี้ปัญหาสงครามการค้าจากสหรัฐอเมริกา และจีน จะทำให้ยอดลูกค้าอเมริกาหันมาซื้อสินค้าในประเทศอาเซียนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลประโยชน์กับบริษัทในอนาคต

FPI