รายงานพิเศษ : PCE รับอานิสงส์รัฐบาล ยกร่างกฎหมายส่งเสริมอุตฯน้ำมันปาล์ม ช่วยหนุนผลประกอบการเติบโต
รมว.พลังงาน เร่งยกร่าง กม.ส่งเสริมอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม ดูแลเกษตรกรให้ได้รับความเป็นธรรม หนุนธุรกิจ บมจ.เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (PCE) ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์ม น้ำมันไบโอดีเซล และน้ำมันปาล์มโอเลอีนเพื่อการบริโภค ที่ปี68 ตั้งเป้ารายได้แตะ 3 หมื่นล้านบาท
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ระบุว่า คณะกรรมการยกร่างกฎหมายส่งเสริมอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มได้เร่งการดำเนินงานยกร่างกฎหมาย เพื่อช่วยเหลือดูแลเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันให้ได้รับความเป็นธรรมด้านรายได้ และมีหลักประกันในการประกอบอาชีพ ก่อนที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะหยุดชดเชยราคาน้ำมันปาล์มที่นำไปผสมกับน้ำมันดีเซลในปี 2569
"เชื่อว่ากฎหมายฉบับนี้จะช่วยทำให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มมีหลักประกันในการประกอบอาชีพ พร้อมทั้งสร้างความเป็นธรรมในด้านรายได้ และจะทำให้วงจรของการนำน้ำมันปาล์มไปผลิตเป็นสินค้าหรือเพิ่มมูลค่า เป็นไปอย่างเป็นระบบและครบวงจร"
นอกจากนี้กระทรวงพลังงานยังได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อช่วยเตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหาให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์ม หลังจากที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะหยุดชดเชยราคาน้ำมันปาล์มที่นำไปผสมเป็นไบโอดีเซลในปี 2569 ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ต้องรีบเตรียมการเพื่อให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มมีตลาดเพิ่มมากขึ้น และรองรับกับสถานการณ์ในปีหน้า เชื่อว่าการเตรียมการนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นให้ลุล่วงไปด้วยดี
แนวทางการสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มของรัฐบาล ส่งผลดีต่อธุรกิจของบมจ.เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ [PCE] ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์ม น้ำมันไบโอดีเซล และน้ำมันปาล์มโอเลอีนเพื่อการบริโภค
โดย “พรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล” รองกรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการระบุ ทิศทางธุรกิจในปี 2568 มีแนวโน้มว่าการส่งออกน้ำมันปาล์มไปจีน และอินเดียยังคงเป็นไปในทิศทางที่ดี และบริษัทฯ เตรียมแผนขยายกำลังการผลิต เน้นเพิ่มมูลค่าสินค้า เพิ่มช่องทางจัดจำหน่าย เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่มีมากขึ้น รวมถึงให้ความสำคัญกับการพัฒนากลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้
พร้อมกันนี้ ได้ให้ความสำคัญต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนขยายเป็น Bio Complex เช่น ลดของเสียและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการบริหารจัดการน้ำเสีย รวมถึงการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล รวมถึงให้ความสำคัญด้านการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดน้ำมันปาล์มและอื่นๆ ด้วยการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ปาล์มที่บริษัทฯ มีอยู่ เช่น น้ำมันเมล็ดในปาล์ม (CPKO) และน้ำมันเมล็ดในปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ (RBDPKO) โดยเพิ่มยอดการจัดจำหน่ายเป็น 40,000 ตันจากเดิม 15,000 ตัน และวางแผนการส่งออกกะลาปาล์มให้มากกว่า 100,000 ตันต่อปี
"กลุ่มบริษัท PCE ยังคงยึดนโยบายขยายขอบเขตธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และสร้างผลตอบแทนระยะยาวผ่านการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ และพัฒนากระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ การบริหารจัดการควบคุมความเสี่ยงในธุรกิจสกัดและกลั่นน้ำมันปาล์ม ธุรกิจขนส่ง และธุรกิจเทรดดิ้งเป็นพิเศษ ด้วยการพิจารณาถึงปัจจัยความเสี่ยงที่ซับซ้อนจากราคาพลังงาน กฎระเบียบ สิ่งแวดล้อม และการเคลื่อนไหวน้ำมันปาล์มในตลาดโลก เพื่อสร้างผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรมควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน และคาดว่ารายได้ในปีนี้จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 30,000 ล้านบาท"