DCA 5 หุ้นตัว TOP ประเดือน ก.พ. TTB ฟอร์มแจ่ม ผลตอบแทนเด่นสุด

ในเปิดปี 2568 ก็ได้ผ่านพ้นไปด้วยกันถึง 2 เดือน และเข้าสู่เดือนที่ 3 ของปี แต่สถานการณ์ของดัชนีตลาดหุ้นไทยก็ได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสำหรับนักลงทุนสาย DCA ก็ถือเป็นช่วงจังหวะที่น่าสนใจพอสมควรกับการทยอยไล่เก็บหุ้นที่ราคาปรับตัวลงตามตลาด



ดังนั้น ในวันนี้ทางสำนักข่าว Share2Trade จึงได้ทำการหยิบยก 5 หุ้นที่เหมาะสมในการทำ CDA ประจำเดือนมีนาคม 2568 โดยอยู่ภายใต้มุมมองและคำแนะนำจากนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งหุ้นที่แนะนำ ประกอบไปด้วย BDMS,CPALL,GULF,MINT และ TTB

สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกหุ้นทั้ง 5 บริษัท จะเป็นบริษัทพื้นฐานดีมีสภาพคล่อง กระจายความเสี่ยงในหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งจะจัดพอร์ตผสมผสานหุ้นปันผลและหุ้นเติบโต กระจายน้ำหนักการลงทุนเท่ากันในแต่ละหุ้น เหมาะกับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการออมในหุ้น ซึ่งจะให้คำแนะนำทุก 1 เดือน ยกเว้น มีเหตุการณ์สำคัญกระทบต่อพื้นฐานบริษัท

TOP 5 DCA

BDMS รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ที่ 4.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกัน หนุนจากรายได้ที่เติบโตและอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาด จากการควบคุมต้นทุนและดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง ประกาศจ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลังปี 67 หุ้นละ 0.40 บาท ราคาปัจจุบันซื้อขายบน P/E เพียง 21 เท่า ต่ำค่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลัง

CPALL รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ที่ 7.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากไตรมาสก่อน และ เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกัน หนุนจากยอดขายสาขาเดิมที่เติบโตในทุกธุรกิจ และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาด ประกาศจ่ายเงินปันผลปี 2567 หุ้นละ 1.35 บาท ให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 2.7% ราคาหุ้นซื้อขายที่ระดับ PE เพียง 16.7 เท่า ต่ำค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีและ 10 ปี

GULF คาดกำไรปกติไตรมาส 1/68 ที่ระดับ 5.0 พันล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง จากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เพิ่ง COD ใหม่แบบเต็มไตรมาส ประเมินราคาหุ้นมีแนวโน้มเคลื่อนไหวดีกว่าตลาดไปจนถึงช่วงควบรวมกับ INTUCH ในปลายเดือน มี.ค.

MINT บริษัทตั้งเป้ากำไรปกติปี 2025 เติบโต 15-20% จากปีก่อนหน้า โดยขยายพอร์ตผ่านโรงแรมรับจ้างบริหารและขายแฟรนไชส์ ขณะเดียวกัน ผู้บริหารมองบวกต่อกระแส White Lotus SS3 ซึ่งถ่ายทำในโรงแรม 4 แห่งของ MINT ที่สมุยและภูเก็ต ปัจจุบัน ADR เพิ่มขึ้น 40% คาดส่งผลดีต่อเนื่องหลังซีรีส์ออกอากาศ

TTB บริษัทประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนตั้งแต่ปี 2568-2570 รวม 2.1 หมื่นล้านบาท โดยจะเริ่มดำเนินการในปี 2568 วงเงินไม่เกิน 7.0 พันล้านบาท จำนวนหุ้นซื้อคืนไม่เกิน 3,500 ล้านหุ้น หรือ 3.6% ของทุนจดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. - 1 ส.ค.2568 คาดเงินปันผลครึ่งปีหลังปี 67 หุ้นละ 0.07 บาท ให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลอยู่ที่ 3.5%

ทั้งนี้ จากการจำลองสถานการณ์ DCA ด้วยจำนวนเงิน 2,000 บาทต่อหุ้นต่อเดือน เป็นระยะเวลา 5 ปี (ณ วันที่ 28 ก.พ. 2563 ถึง 28 ก.พ. 2568) พบว่า TTB ให้ผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่นในทุกๆด้าน ไม่ว่าสร้างกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นไปถึง 55,929 บาท และยังให้เงินปันผลไปถึง 21,512 บาท

รองลงมาเป็น GULF ที่นักลงทุนจะได้กำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นอยู่ที่ 18,188 บาท และให้เงินปันผลอยู่ที่ 6,889 บาท และตามมาด้วย MINT ให้กำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นอยู่ที่ 4,635 บาท พร้อมกับให้เงินปันผลอยู่ที่ 3,591 บาท

ขณะที่ 2 หุ้นที่เหลือ BDMS มีผลขาดทุนจากส่วนต่างราคาหุ้นอยู่ที่ 2,057 บาท แต่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงถึง 7,657 บาท และ CPALL ผลขาดทุนจากส่วนต่างราคาหุ้นอยู่ที่ 13,625 บาท และให้เงินปันผลอยู่ที่เพียง 3,545 บาท