Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 13-03-23


13 มีนาคม 2566
เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 13-03-23

13-03-23  สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ

***สัปดาห์ที่แล้วดาวโจนส์ปิดร่วงลงกว่า 300 จุดในวันศุกร์ (10 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับสภาวะของภาคธนาคารสหรัฐ หลังจากมีการสั่งปิดกิจการธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ซึ่งอยู่ในเครือของบริษัทเอสวีบี ไฟแนนเชียล กรุ๊ป หลังจากประสบปัญหาด้านการเงิน โดย
ดาวโจนส์ปิดที่ 31,909.64 จุด ลดลง 345.22 จุด หรือ -1.07% 
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,861.59 จุด ลดลง 56.73 จุด หรือ -1.45% 
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,138.89 จุด ลดลง 199.47 จุด หรือ -1.76%

***มีรายงานว่าบรรษัทรับประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) ได้สั่งปิด SVB เพื่อปกป้องผู้ฝากเงิน ขณะที่วิกฤตของ SVB ได้สร้างแรงกดดันให้กับหุ้นธนาคารทั่วโลก เนื่องจาก SVB ไม่สามารถเพิ่มงบดุลบัญชีผ่านการเสนอขายหุ้นเมื่อวันพุธ (8 มี.ค.) ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ซิลเวอร์เกต แคปิตอล เปิดเผยว่าจะต้องยุติการดำเนินงานของซิลเวอร์เกตแบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารในเครือ หลังจากขาดทุนอย่างหนักจากการล้มละลายของบริษัทเอฟทีเอ็กซ์ซึ่งเป็นบริษัทซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี

***สำหรับตลาดหุ้นไทยของเราสัปดาห์นี้ คงหนีไม่พ้นที่จะพูดกันถึงเรื่องนี้แน่ๆ เป็นไปได้ว่าเปิดตลาดเทรดหุ้นวันนี้ เจ๊ประเมินว่า SET INDEX ดิ่งหัวทิ่มเลยละมั้ง!!!!  เพราะมีความกังวลว่าปัญหาในครั้งนี้อาจลุกลาม จนเกิดความเสี่ยงต่อระบบการเงินทั้งระบบได้แม้ว่าไม่รุนแรงเท่าปี 2551 แต่คาดกันว่าจะกระทบการลงทุนในธุรกิจอุตสาหกรรมไฮเทคช่วงสั้น 

***ต่อเรื่องของ SVB ก้อมีอีกมุมมองคือ เป็นไปได้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯหรือ เฟด อาจทบทวนไม่ขึ้นดอกเบี้ยแรงซ้ำเติม และอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25-0.50% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค.นี้  เพราะหากขึ้นดอกเบี้ยแรงไปจะกดดันตลาดหุ้น มูลค่าพันธบัตรและหลักทรัพย์ที่สถาบันการเงินถืออยู่มากเกินไป กระทบความเชื่อมั่นผู้ฝากเงิน ...แต่สำหรับแบงก์ไทยไม่ต้องเป็นห่วงแข็งแกร่ง สุขภาพแข็งแรงดีสุดๆ 

***แวะมาทางนี้ดีกว่า..เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กพช. มีมติปรับแผนรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ตาม PDP 2018 rev 1 (2018-2037) จากเดิมราว 10,000 MW เพิ่มเป็น 12,700 MW (2023-2030) พร้อมมอบหมาย กกพ. เตรียมออกประกาศรับซื้อไฟฟ้ารอบใหม่เพิ่มเติมอีกราว  3,668.5 MW (แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าโซลาร์ ฟาร์ม,ลม, ก๊าซชีวภาพ และขยะอุตสาหกรรม 2,632 , 1,000, 6.5 และ 30 MW) +69% จากรอบแรกที่ประกาศไป 5,203 MW 

***การรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติมคราวนี้ ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่เข้าร่วมประมูลในรอบปัจจุบันมาก เพราะเพิ่มโอกาสแก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ยื่นประมูลในรอบปัจจุบัน เนื่องจากมีความพร้อมมากอยู่แล้ว อาทิ  GULF, GUNKUL, GPSC, TSE, ETC

***กูรูหุ้นบอกว่ายังคงน้ำหนัก Bullish กลุ่มโรงไฟฟ้า และมีมุมมองปัจจัยบวกต่อกลุ่มในปีนี้เข้ามาต่อเนื่องทั้ง i) โรงไฟฟ้าใหม่ COD/ เริ่มรับรู้โรงไฟฟ้าที่ M&A เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 1-4 ปีนี้  ii) การปรับขึ้น ft หนุนเต็มปีและแนวโน้มต้นทุนพลังงานขาลงหนุนการฟื้น GPM ขายไฟ IU ต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 1/66 และ iii) upside จากโครงการระหว่างศึกษา/เจรจาทั้งในและต่างประเทศ ที่คาดเห็นความคืบหน้าในช่วงครึ่งแรกปีนี้  

***ขอย้ำเรื่องของ FTSE ประกาศทบทวนรายชื่อหุ้นเข้า-ออกดัชนีใหม่ ที่จะมีผลในวันที่ 17 มี.ค.นี้นะจ้ะ โดยมี Nomura ประเมินเม็ดเงินเป็น Net Outflow จากไทยราว -54 ล้านเหรียญฯ
-Large Cap หุ้นเข้า AWC (ขยับขึ้นจาก Mid Cap) หุ้นออก ไม่มี
-Mid Cap หุ้นเข้า ไม่มี หุ้นออก AWC
-Small Cap หุ้นเข้า ไม่มีหุ้นออก CPNREIT, UNIQ
-Micro Cap หุ้นเข้า: BAREIT, BKD, CH, GEL, GRAND,GIFT, QCON, QHHR, SABUY, STI, TEAM, TGE, TEGH, ONEE, TC,UNIQ 
ออก: B, CIVIL, CSC, DREIT, ESTAR, EMC, GROREIT,KTBSTMR, MODERN, NNCL, PTL, SCAP, TR, TVI, THE, WFX