กระดานข่าว
กรุงศรี คอนซูมเมอร์ วาง 5 กลยุทธ์รักษาแชมป์ ตั้งเป้าปี68 “ลูกค้าใหม่และใช้จ่ายผ่านบัตรโต 10%”
07 มีนาคม 2568
กรุงศรี คอนซูมเมอร์ วาง 5 กลยุทธ์รักษาความเป็นผู้นำในตลาด ตั้งเป้าปี 2568 มียอดบัญชีลูกค้าใหม่และยอดใช้จ่ายผ่านบัตรโต 10% ส่วนหนี้NPL รักษาใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่ 1.1%

นายอธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล อันประกอบไปด้วย บัตรเครดิต กรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัส เปิดเผยว่า ปี 2568 บริษัทตั้งเป้า มียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 652,500 บัญชี (+10%), ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 431,500 ล้านบาท (+10%), ยอดสินเชื่อใหม่ 108,800 ล้านบาท (+14%) และยอดสินเชื่อคงค้าง 158,500 ล้านบาท (+8%)
ขณะที่อัตราส่วนหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ที่อยู่ที่ระดับ 1.1% สำหรับบัตรเครดิต และ 2.6% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ ซึ่งนับว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม
โดยบริษัทจะยังคงมุ่งเน้นสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ พร้อมเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ เพื่อคงความเป็นผู้นำในธุรกิจ โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ผ่าน 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1. มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์หลักให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น 2. ขยายระบบนิเวศพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจ 3. สร้างเสริมนวัตกรรมทางการชำระเงิน 4. ผสานความร่วมมือในเครือกรุงศรีเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ และ 5. พัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน
“กลยุทธ์ทั้งห้าประการนี้เป็นไปเพื่อเสริมศักยภาพของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ให้สอดรับกับสภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป เพื่อสร้างความเติบโตอย่างมีคุณภาพและรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจการเงิน” นายอธิศ กล่าว
สำหรับผลประกอบการในปี 2567 ที่ผ่านมาของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เติบโตเป็นที่น่าพอใจ จากความสำเร็จในการเดินกลยุทธ์ของบริษัท โดยมียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 594,000 บัญชี เติบโต +6%, ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 392,500 ล้านบาท เติบโต +8%, ยอดสินเชื่อใหม่ 95,500 ล้านบาท เติบโต +4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และยอดสินเชื่อคงค้าง 146,200 ล้านบาท
ทั้งนี้ หมวดใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุดเรียงตามยอดใช้จ่าย ได้แก่ 1. ประกันภัย, 2. ไฮเปอร์มาร์ท ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ, 3. ปั๊มน้ำมัน, 4. ตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ในครัวเรือน และ 5. ช้อปออนไลน์
ส่วนหมวดใช้จ่ายที่มีอัตราเติบโตสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ตัวแทนท่องเที่ยว, 2. โซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชัน, 3. ช้อปออนไลน์, 4. แอปดิลิเวอรี และ 5. สุขภาพและความงาม
ขณะที่อัตราส่วนหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน อยู่ที่ระดับ 1.1% สำหรับบัตรเครดิต และ 2.6% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ นับว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในธุรกิจ อันเป็นผลจากการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม

นายอธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล อันประกอบไปด้วย บัตรเครดิต กรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัส เปิดเผยว่า ปี 2568 บริษัทตั้งเป้า มียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 652,500 บัญชี (+10%), ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 431,500 ล้านบาท (+10%), ยอดสินเชื่อใหม่ 108,800 ล้านบาท (+14%) และยอดสินเชื่อคงค้าง 158,500 ล้านบาท (+8%)
ขณะที่อัตราส่วนหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ที่อยู่ที่ระดับ 1.1% สำหรับบัตรเครดิต และ 2.6% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ ซึ่งนับว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม
โดยบริษัทจะยังคงมุ่งเน้นสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ พร้อมเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ เพื่อคงความเป็นผู้นำในธุรกิจ โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ผ่าน 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1. มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์หลักให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น 2. ขยายระบบนิเวศพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจ 3. สร้างเสริมนวัตกรรมทางการชำระเงิน 4. ผสานความร่วมมือในเครือกรุงศรีเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ และ 5. พัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน
“กลยุทธ์ทั้งห้าประการนี้เป็นไปเพื่อเสริมศักยภาพของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ให้สอดรับกับสภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป เพื่อสร้างความเติบโตอย่างมีคุณภาพและรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจการเงิน” นายอธิศ กล่าว
สำหรับผลประกอบการในปี 2567 ที่ผ่านมาของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เติบโตเป็นที่น่าพอใจ จากความสำเร็จในการเดินกลยุทธ์ของบริษัท โดยมียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 594,000 บัญชี เติบโต +6%, ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 392,500 ล้านบาท เติบโต +8%, ยอดสินเชื่อใหม่ 95,500 ล้านบาท เติบโต +4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และยอดสินเชื่อคงค้าง 146,200 ล้านบาท
ทั้งนี้ หมวดใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุดเรียงตามยอดใช้จ่าย ได้แก่ 1. ประกันภัย, 2. ไฮเปอร์มาร์ท ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ, 3. ปั๊มน้ำมัน, 4. ตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ในครัวเรือน และ 5. ช้อปออนไลน์
ส่วนหมวดใช้จ่ายที่มีอัตราเติบโตสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ตัวแทนท่องเที่ยว, 2. โซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชัน, 3. ช้อปออนไลน์, 4. แอปดิลิเวอรี และ 5. สุขภาพและความงาม
ขณะที่อัตราส่วนหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน อยู่ที่ระดับ 1.1% สำหรับบัตรเครดิต และ 2.6% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ นับว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในธุรกิจ อันเป็นผลจากการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม