รายงานพิเศษ : TPS หุ้นเด่นรับโอกาสเติบโต เกาะกระแสเทรนด์เทคโนโลยี AI แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจและผลงานปี 68

เป็นที่ยอมรับว่าเทคโนโลยีสารสนเทศมีส่วนสำคัญที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ  ทำให้รัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศให้การสนับสนุนการลงทุนทั้งของภาครัฐและเอกชน โดยมีการลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกและนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาลที่มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล   ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าให้เศรษฐกิจดิจิทัลมีสัดส่วน 30% ของ GDP ภายในปี 2030

ผศ.ดร.ณัฐพล  นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า  ก็ยอมรับว่า ปัจจุบันเทคโนโลยี AI กำลังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจโลก  และ Gartner บริษัทชั้นนำของโลกในการทำวิจัยและให้คำปรึกษาแก่ผู้บริหารธุรกิจ ได้คาดการณ์ว่า ภายในปี 2027 โซลูชันจาก Generative AI จะเติบโตถึง 40% ด้วยความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

ทำให้เกิดการขยายประโยชน์และสนับสนุนการทำงานของมนุษย์ ส่งผลให้ AI กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน พลิกโฉมดิจิทัลสตาร์ทอัพและ SMEs ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด สำหรับประเทศไทย การประยุกต์ใช้ AI ในการพัฒนาเทคโนโลยีและธุรกิจถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจและผลักดันประเทศสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

กระแสการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่มีความต้องการใช้มากขึ้น ยังสะท้อนได้จากการเติบโตของ บมจ.เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น (TPS) ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ   ซึ่งผลงานปี 67  บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 135.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.10 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16.42% เทียบกับปีก่อน มีกำไรสุทธิ 116.37 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง และมีรายได้รวม 1,606.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 243.50 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.87% เทียบกับปีก่อน มีรายได้รวม 1,362.81 ล้านบาท

ปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้รายได้และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากรับรู้รายได้จากการให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขาย และธุรกิจวิศวกรรมโยธาด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานและโทรคมนาคมในส่วนของบริษัทย่อย

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  “บุญสม กิจเกษตรสถาพร”  ระบุว่า ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ และกลุ่มบริษัทย่อย สามารถดำเนินธุรกิจได้เติบโตตามแผนงานที่วางไว้ รับรู้รายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอจากธุรกิจการให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขาย  ธุรกิจวิศวกรรมโยธาด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานและโทรคมนาคมในส่วนของบริษัทย่อย รวมถึงสามารถส่งมอบงานขนาดใหญ่ให้ภาครัฐและเอกชนได้ตามกำหนด          

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2568 บริษัทฯ มุ่งเน้นพัฒนา 4 กลุ่มงานหลัก ประกอบด้วย Network Infrastructure ได้แก่ ระบบ LAN, Wi-Fi Network และระบบ ภายในห้อง Data center, งาน Cyber Security ซึ่ง TPS ให้ความสำคัญในการพัฒนาทีม Cybersecurity ให้มีศักยภาพ มีความเชี่ยวชาญและมุ่งสู่การเป็นผู้นำในการให้บริการโซลูชั่นในด้าน Cybersecurity, งานระบบ System ได้แก่ เทคโนโลยี AI, Compute, Storage และระบบ Virtual machine ต่างๆ และ งาน Customer Service โดยมุ่งเน้นเป็นหนึ่งในผู้นำการให้บริการหลังการขาย

ขณะเดียวกัน ในปี 2568 TPS ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20-25% จากปีก่อน โดยปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 1,845 ล้านบาท รวมทั้ง TPS และ บริษัท เดอะวิน เทเลคอม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ยังเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะงานภาครัฐที่มีขนาดใหญ่ และมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากภาครัฐ 42% และภาคเอกชน 58%