Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 10-03-25(สัปดาห์นี้มีหุ้นขึ้น XD จำนวน 138 ตัว )

 Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม  10-03-25(สัปดาห์นี้มีหุ้นขึ้น XD จำนวน 138 ตัว )

10-03-25 สวัสดีปีใหม่ 2568 “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ 

***เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดาวโจนส์ปิดที่ 42,801.72 จุด เพิ่มขึ้น 222.64 จุด หรือ +0.52%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,770.20 จุด เพิ่มขึ้น 31.68 จุด หรือ +0.55% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,196.22 จุด เพิ่มขึ้น 126.96 หรือ +0.70%

***รายงานข่าวระบุว่าดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (7 มี.ค.) โดยฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงลงในช่วงเช้า เนื่องจากได้แรงหนุนจากคำกล่าวของ “เจอโรม พาวเวล” ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ในภาวะที่ดี อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ส่งผลให้ตลาดเผชิญกับการร่วงลงรายสัปดาห์หนักที่สุดในรอบหลายเดือน

***”พาวเวล”กล่าวว่า เฟดจะไม่เร่งรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย และแสดงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจเรื่องภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน ทำให้ตลาดผันผวนตลอดทั้งสัปดาห์ พร้อมกันนี้ เฟดจะดำเนินการอย่างระมัดระวังในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยระบุเสริมว่าเศรษฐกิจในปัจจุบันยังคงอยู่ในภาวะที่ดี

**ทางด้านตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (10-14 มี.ค.) กูรูหุ้นประเมินสัญญาณทางเทคนิค SET INDEX มีแนวรับที่ 1,180 และ 1,170 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,220 และ 1,230 จุด โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ

***ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.พ. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2567และดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.พ. ของญี่ปุ่น ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค. ของยูโรโซนและอังกฤษ ตลอดจนยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวนเดือนก.พ. ของจีน

***มีการเปิดเผยข้อมูลว่าสัปดาห์นี้ มีหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย “XD” ทั้งหมด 138 ตัว อาทิ SCCC, COM7, BDMS และ REITs อีกหลายตัว ควรระวังแรงขายหุ้นทั้งก่อนและหลัง “XD” หากราคาปรับตัวลงเท่ากับเงินปันผลจ่าย จะมีผลต่อดัชนีฯ -3.0 จุด

***ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมามี 2 เรื่องที่เจ๊ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษเริ่มจากเรื่องของ ตลาดหุ้นที่ประธานบอร์ด “ศาสตราจารย์พิเศษกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์” ออกมาบอกว่ามีแผนจะเสนอออก Omnibus law หรือ พระราชกำหนดฟื้นฟูตลาดหุ้นไทย โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 3-6 เดือนนี้ เพื่อความคล่องตัวในการแก้ปัญหาตลาดทุนไทยในอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงในการสร้างความเชื่อมั่น เพิ่มความน่าสนใจให้แก่ตลาดทุนและดึงดูดเม็ดเงินลงทุนใหม่

**มีโครงการดึงดูดนักลงทุนอย่าง Thailand Individual Saving Account (TISA) ที่จะให้นักลงทุนเข้าลงทุนหุ้นรายตัวโดยถือระยะยาวหรือจะทยอยซื้อสะสมแบบ DCA ซึ่งจะสามารถนำไปลดหย่อนภาษีนิติบุคคลประจำปี คล้ายคลึงกับกองทุนประหยัดภาษี แต่มีเงื่อนไขว่าจะถือครองหุ้นไปจนถึงวัยเกษียณถึงจะขายหุ้นออกมาได้โดยไม่เสียภาษี แต่อย่างไรก็ดีเงินที่ได้รับจากการปันผลยังคงต้องเสียภาษีเป็นปกติ

***พร้อมกันนี้ ยังได้เตรียมโครงร่างของโครงการ JUMP+ เพื่อบริษัทจดทะเบียนที่ราคาต่ำบุ๊คแต่มีศักยภาพการเติบโตได้ดีในอนาคต สามารถเพิ่มมูลค่าของบริษัทได้และสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีได้เพิ่มเติมหรือมากกว่าบริษัทจดทะเบียนอื่นๆ

***เจ๊จิ๋มยกมือสาธุ..ขอให้ได้ ขอให้โดน!!! ทำมาเถอะ..อะไรที่ทำให้ตลาดหุ้นเราฟื้นตัวได้ ช่วยเร่งมือหน่อย ถ้าช้ากว่านี้..เกรงว่าเวลท์ในมือของ “รายย่อย” (รวมถึงเจ๊ด้วย) จะไม่มีเหลือจนได้เห็นวันที่มีมาตรการออกมาและดันหุ้นขึ้นได้น่ะค่ะทั่นข๋า

*** ส่วนอีกเรื่องคือ PTG เปิดกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจปี 2568 ภายใต้ Max World เดินหน้าขยายเครือข่ายธุรกิจในหลากหลายมิติ เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง พร้อมตอกย้ำวิสัยทัศน์ "อยู่ดี มีสุข" ผ่านการพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) ที่เชื่อมโยงทุกไลฟ์สไตล์ และใช้ฐานสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus กว่า 25 ล้านสมาชิก เป็นกลไกสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ Oil และ Non-Oil  ตั้งเป้าสัดส่วนกำไรขั้นต้นของธุรกิจ Non-Oil เพิ่มขึ้นเป็น 50% ภายในปี 2571 มุ่งเน้น กาแฟพันธุ์ไทย เป็นหัวหอกสำคัญ ขยายสู่ 5,000 สาขาทั่วประเทศ และก้าวสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ภายในปี 2573