ตามที่นักลงทุนทราบกันดีว่า ตลาดหุ้นจีนในช่วงที่ผ่านมาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จนทำให้ราคาหุ้นหลายบริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ โดยเฉพาะในกลุ่ม “Terrific Ten” หรือบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีน 10 บริษัท
โดยวันนี้ทางสำนักข่าว Share2Trade จึงทำการหยิบยก 5 หุ้นในกลุ่มข้างต้น ที่ให้ผลตอบแทนหรือราคาหุ้นปรับตัวอย่างร้อนแรงมานำเสนอแก่ผู้อ่านและนักลงทุนสายหุ้นต่างประเทศกันในครั้งนี้
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า “Terrific Ten” ประกอบด้วยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีน 10 บริษัท ซึ่งได้รับความสนใจมากขึ้น หลังผลตอบแทนสามารถแซงหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ รับแรงหนุนจากการเปิดตัวของสตาร์ทอัพ AI อย่าง DeepSeek และการประชุมระหว่างประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง กับผู้นำบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ
เริ่มกันที่บริษัทแรกอย่าง SMIC (Semiconductor Manufacturing International Corporation) ที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจหรือโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ โดยมูลค่าตามราคาตลาด(มาร์เก็ตแคป)อยู่ที่ 2.45 ล้านล้านบาท ซึ่งในด้านของราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปี 2568 ถึงปัจจุบันก็ได้ปรับตัวขึ้นมาสูงถึง 80.50%
ต่อมา Alibaba หนึ่งในบริษัทที่นักลงทุนหลายคนจะรู้จักกันในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีและอีคอมเมิร์ซให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์เช่น Taobao, และ Tmall รวมถึง Alibaba Cloud ซึ่งมีมูลค่าตามราคาตลาด(มาร์เก็ตแคป)อยู่ที่ 11.30 ล้านล้านบาท และราคาหุ้นได้ปรับตัวตั้งแต่ต้นปี 2568 ถึงปัจจุบัน 66.14%
ถัดมา Xiaomi อีกหนึ่งบริษัทเทคโนโลยีที่เป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟน, อุปกรณ์ IoT และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะอย่างครบวงจร ที่มีมูลค่าตามราคาตลาด(มาร์เก็ตแคป)กว่า 6.14 ล้านล้านบาท โดยราคาหุ้นปรับตัวตั้งแต่ต้นปี 2568 ถึงปัจจุบัน 63.19%
BYD บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่รายใหญ่ มีชื่อเสียงด้านรถยนต์ EV และพลังงานสะอาด มีมูลค่าตามราคาตลาด(มาร์เก็ตแคป)อยู่ที่ 4.99 ล้านล้านบาท ซึ่งราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปี 2568 ถึงปัจจุบันได้ปรับตัวขึ้นมาสูงถึง 46.21%
และสุดท้าย JD.com – แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เน้นการจัดส่งสินค้ารวดเร็วและมีคลังสินค้าอัตโนมัติ มีมูลค่าตามราคาตลาด(มาร์เก็ตแคป)อยู่ที่ 2.36 ล้านล้านบาท โดยราคาหุ้นจากตั้งแต่ต้นปี 2568 ถึงปัจจุบันได้ปรับตัวขึ้นมา 23.60%