Wealth Sharing

กูรูเตือน! เศรษฐกิจไทยเสี่ยง หนีผลกระทบ TRADE WAR ยาก อาจถูกเช็คบิล หลังเกินดุลกับสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น


11 มีนาคม 2568

เกาะติดประเด็น สงครามการค้า หรือ TRADE WAR  เพราะล่าสุดนักวิเคราะห์มองกำแพงภาษีรอบใหม่ในยุค TRUMP 2.0 จงใจกีดกันทุกประเทศ ซึ่ง “เศรษฐกิจไทย” มีความเสี่ยงมากขึ้น ในการหลีกเลี่ยงผลกระทบ TRADE WAR

กูรูเตือน! เศรษฐกิจไทยเสี่ยง_WS (เว็บ) copy_0.jpg

ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ประเมินว่า นโยบายตั้งกำแพงภาษีรอบใหม่ในยุค TRUMP 2.0 จงใจกีดกันทุกประเทศ เพื่อลดการเอาเปรียบสหรัฐฯ ทำให้ “เศรษฐกิจไทย” มีความเสี่ยงมากขึ้น ในการหลีกเลี่ยงผลกระทบ TRADE WAR โดยเฉพาะภาคการส่งออก และอาจลามไปถึงการบริโภค และการจ้างงานได้ ด้วยเหตุผลหลักๆ อาทิ

1.ไทยพึ่งส่งออกสูง โดยคิดเป็นสัดส่วน 64% ของ GDP และส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 17% 

2.ไทยได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯ มากขึ้น โดยในปี 2560 อยู่ลำดับที่ 14 (มูลค่า 2.01 หมื่นล้านเหรียญฯ) ขณะที่ปี 2567 อยู่ลำดับที่ 11 (มูลค่า 4.56 หมื่นล้านเหรียญฯ)

3.ไทยเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ในอัตราที่สูงกว่า โดยล่าสุดรายงานของ USTR เผย อัตราภาษีนำเข้าจากสหรัฐที่อยู่ระดับสูง โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ซึ่งของไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 27% และสินค้าอื่นๆ เฉลี่ยอยู่ที่ 7.1% เทียบกับของสหรัฐในด้านสินค้าเกษตรอยู่ที่ 5% ส่วนสินค้าอื่นๆ เฉลี่ยอยู่ที่ 3.1%

ทั้งนี้ ผลกระทบจากนโยบายทางค้าของ TRUMP ยังต่องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะหลังวันที่ 2 เม.ย. 68 เป็นต้นไป ขณะที่วานนี้ ในงานเสวนา TRADE WAR 2025 จะรับมือกับ TRUMP อย่างไร? 

โดยมีมุมมองว่า ไทยเสี่ยงถูกเช็คบิล หลังเกินดุลกับสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น บวกกับต้นทุนภาษีส่งออกมีโอกาสสูงขึ้น อีกทั้งสินค้าจีนเสี่ยงทะลักเข้ามาในไทยมากขึ้น 

ส่วนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในยุค TRUMP 2.0 อาจไม่โดดเด่นเหมือนในอดีต เนื่องจาก TRUMP เตรียมขึ้นภาษีทุกประเทศ การย้ายฐานการผลิตอาจจะไม่มีผล

สรุป ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไปยังต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะผลกระทบ TRADE WAR ต่อภาคการส่งออก และอาจลามไปถึงการบริโภค และการจ้างงานได้