Fund / Insurance
“ที โบรคเกอร์”ตั้งเป้าปี68 เบี้ยประกันกว่า1.13 พันลบ. เปิดตัวโครงการ“นายหน้าสีส้ม”ขยายช่องทางนายหน้า
11 มีนาคม 2568
“ที โบรคเกอร์” เดินหน้าเติบโตแบบก้าวกระโดดปีละ 35% ในธุรกิจนายหน้าประกัน ตั้งเป้า ปี 2568 สร้างธุรกิจเบี้ยประกันกว่า 1,130 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวโครงการ “นายหน้าสีส้ม” ขยายช่องทางนายหน้าครอบคลุมทั่วประเทศ

นางสาวชนิตา ขยันตรวจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที โบรคเกอร์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจาก บมจ.ทุนธนชาต (TCAP) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มธนชาต เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท 100% และมีการเพิ่มทุนจดทะเบียน ทำให้ ที โบรคเกอร์ มีความมั่นคงแข็งแกร่งทางการเงินและเสริมสร้างความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันมากขึ้น โดยบริษัทมีแผนที่จะสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
โดยในปี 2568 นี้ บริษัทคาดว่า จะมีเบี้ยประกันกว่า 1,130 ล้านบาท ซึ่งเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา 35% และจากนี้ไปบริษัทจะยืนหยัดรักษาการเติบโตในระดับปีละ 35% ให้ได้อย่างต่อเนื่องในธุรกิจนายหน้าประกันภัยและประกันชีวิต และนอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ด้านประกันแล้ว บริษัทยังมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทั้งทางการเงินและการลงทุนอื่นๆ เช่น สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อรถบรรทุก สินเชื่อรถจักรยานยนต์ รวมถึงสินเชื่อลูกค้าองค์กรขนาดกลาง-ใหญ่ อีกด้วย
และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการที่จะเติบโตในธุรกิจนายหน้าประกันและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง บริษัทมีนโยบายในการเร่งขยายกลุ่มนายหน้าที่จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของบริษัทในการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายไปสู่ลูกค้า โดยตั้งเป้าหมายที่จะมีนายหน้าให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ ทุกภาค ทุกจังหวัด พร้อมทั้งได้วางกลยุทธ์สำคัญในการที่จะสร้างการเติบโตแบบยั่งยืนให้กับบริษัท คือ
1. โครงการนายหน้าสีส้มที่จะสร้างกลุ่มผู้ขายพันธมิตรทางธุรกิจที่พร้อมเติบโตกับบริษัทแบบยั่งยืนด้วยสวัสดิการและสิทธิพิเศษที่บริษัทมอบให้
2. การพัฒนาศักยภาพนายหน้าไม่จำกัดเฉพาะเพียงการขายประกันรถยนต์ แต่สามารถเป็นที่ปรึกษาทางการเงินได้ (T Advisor) โดยยึดหลักการให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม (Market Conduct) ซึ่งบริษัทมีการกำกับดูแลนายหน้ารายบุคคลที่ส่งงานกับบริษัทให้เป็นไปตามนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
3. การให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ทำให้นายหน้าและลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีจากการให้บริการ
นางสาวชนิตา กล่าวอีกว่า ในการดำเนินธุรกิจของ ที โบรค์เกอร์ บริษัทได้ให้ความสำคัญกับการสร้างผลประกอบการที่ดีร่วมกันกับพันธมิตรคู่ค้าทางธุรกิจ รวมถึงเหล่านายหน้าทุกราย ด้วยคำมั่นที่ว่า “มั่นคง มั่นใจ ไปกับ ที โบรคเกอร์” และจากความพร้อมในทุกๆ ด้านที่กล่าวมา ทั้งความแข็งแกร่งจากการเป็นบริษัทในกลุ่มธนชาต การสนับสนุนจากพันธมิตรรายใหญ่ การมีนายหน้าสนับสนุนการขายทั่วประเทศ รวมถึงมีผลิตภัณฑ์หลากหลายครบถ้วน จะทำให้บริษัทมีขีดความสามารถทางการแข่งขันที่เข้มแข็งขึ้นและสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจนายหนาประกันได้เป็นอย่างดี และมั่นใจว่าบริษัทจะมีการเติบโตทางธุรกิจแบบยั่งยืนต่อไป

นางสาวชนิตา ขยันตรวจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที โบรคเกอร์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจาก บมจ.ทุนธนชาต (TCAP) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มธนชาต เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท 100% และมีการเพิ่มทุนจดทะเบียน ทำให้ ที โบรคเกอร์ มีความมั่นคงแข็งแกร่งทางการเงินและเสริมสร้างความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันมากขึ้น โดยบริษัทมีแผนที่จะสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
โดยในปี 2568 นี้ บริษัทคาดว่า จะมีเบี้ยประกันกว่า 1,130 ล้านบาท ซึ่งเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา 35% และจากนี้ไปบริษัทจะยืนหยัดรักษาการเติบโตในระดับปีละ 35% ให้ได้อย่างต่อเนื่องในธุรกิจนายหน้าประกันภัยและประกันชีวิต และนอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ด้านประกันแล้ว บริษัทยังมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทั้งทางการเงินและการลงทุนอื่นๆ เช่น สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อรถบรรทุก สินเชื่อรถจักรยานยนต์ รวมถึงสินเชื่อลูกค้าองค์กรขนาดกลาง-ใหญ่ อีกด้วย
และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการที่จะเติบโตในธุรกิจนายหน้าประกันและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง บริษัทมีนโยบายในการเร่งขยายกลุ่มนายหน้าที่จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของบริษัทในการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายไปสู่ลูกค้า โดยตั้งเป้าหมายที่จะมีนายหน้าให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ ทุกภาค ทุกจังหวัด พร้อมทั้งได้วางกลยุทธ์สำคัญในการที่จะสร้างการเติบโตแบบยั่งยืนให้กับบริษัท คือ
1. โครงการนายหน้าสีส้มที่จะสร้างกลุ่มผู้ขายพันธมิตรทางธุรกิจที่พร้อมเติบโตกับบริษัทแบบยั่งยืนด้วยสวัสดิการและสิทธิพิเศษที่บริษัทมอบให้
2. การพัฒนาศักยภาพนายหน้าไม่จำกัดเฉพาะเพียงการขายประกันรถยนต์ แต่สามารถเป็นที่ปรึกษาทางการเงินได้ (T Advisor) โดยยึดหลักการให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม (Market Conduct) ซึ่งบริษัทมีการกำกับดูแลนายหน้ารายบุคคลที่ส่งงานกับบริษัทให้เป็นไปตามนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
3. การให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ทำให้นายหน้าและลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีจากการให้บริการ
นางสาวชนิตา กล่าวอีกว่า ในการดำเนินธุรกิจของ ที โบรค์เกอร์ บริษัทได้ให้ความสำคัญกับการสร้างผลประกอบการที่ดีร่วมกันกับพันธมิตรคู่ค้าทางธุรกิจ รวมถึงเหล่านายหน้าทุกราย ด้วยคำมั่นที่ว่า “มั่นคง มั่นใจ ไปกับ ที โบรคเกอร์” และจากความพร้อมในทุกๆ ด้านที่กล่าวมา ทั้งความแข็งแกร่งจากการเป็นบริษัทในกลุ่มธนชาต การสนับสนุนจากพันธมิตรรายใหญ่ การมีนายหน้าสนับสนุนการขายทั่วประเทศ รวมถึงมีผลิตภัณฑ์หลากหลายครบถ้วน จะทำให้บริษัทมีขีดความสามารถทางการแข่งขันที่เข้มแข็งขึ้นและสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจนายหนาประกันได้เป็นอย่างดี และมั่นใจว่าบริษัทจะมีการเติบโตทางธุรกิจแบบยั่งยืนต่อไป