จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : NKT วางเป้า 7 กลยุทธ์หลัก หวังสร้างการเติบโตที่มั่นคง หนุนเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ


12 มีนาคม 2568

บมจ.โรงพยาบาลนครธน (NKT) วาง 7 กลยุทธ์ สร้างความมั่นคง  ดันรายได้เติบโต 8-10%  ตั้งเป้าเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลช้ำนำของประเทศ  พร้อมบุกตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

NKT วางเป้า 7 กลยุทธ์หลัก_รายงานพิเศษ S2T (เว็บ)_0.jpg

รศ. ญาณเดช ทองสิมา  ประธานกรรมการบริษัท บมจ.โรงพยาบาลนครธน (NKT) กล่าวว่า ในปี 68 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตระดับ 8-10%  โดยประเมินจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  ทั้งนี้บริษัทฯ ได้วาง 7 กลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงและมีเสถียรภาพ ประกอบด้วย

1.มุ่งมั่นก้าวไปสู่การเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลชั้นนำระดับประเทศ

2.พัฒนาคุณภาพการให้บริการด้วยบุคลากรและทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ มุ่งเน้นการรักษาโรคยากซับซ้อน

3.นำเทคโนโลยีมาใช้ในการรักษาทางการแพทย์ และบริหารจัดการองค์กร

4.ขยายขอบเขตการให้บริการภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ

5.ต่อยอดความแข็งแกร่งของ Brand Image และพัฒนาความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการ

6.ขยายธุรกิจผ่านเครือข่ายของโรงพยาบาลและธุรกิจด้านสุขภาพอื่น ๆ           

ด้านแพทย์หญิง ศิเรมอร ทองสิมา ผู้อำนวยการสายงานแพทย์ NKT กล่าวว่า บริษัทฯ วางแผนขยายการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต ได้แก่ 1.โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลนครธน 2 บนถนนเอกชัย จำนวน 151 เตียง คาดว่าจะเปิดให้บริการและเริ่มรับรู้รายได้ประมาณในช่วงปลายไตรมาส 3/68, 2.โครงการนครธน ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์ ตั้งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลนครธน เป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงแบบองค์รวม คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในปี 2569 และ 3.โครงการขยายจำนวนเตียงให้บริการของโรงพยาบาลนครธนอีก 110 เตียง จากปัจจุบัน 150 เตียง จะทยอยเปิดให้บริการในปี 2568-2570

ส่วนแผนขยายการให้บริการแก่กลุ่มผู้รับบริการชาวต่างชาติ NKT ได้แต่งตั้งตัวแทนในประเทศเมียนมาร์ เพื่อเป็นศูนย์กลางติดต่อสื่อสารกับประชาชนและผู้ที่สนใจเข้ารับบริการทางการแพทย์ สามารถเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลนครธนได้สะดวกยิ่งขึ้น ล่าสุดได้ขยายตลาดในกลุ่มประเทศกัมพูชา และเตรียมขยายตลาดไปยังประเทศบังกลาเทศในลำดับถัดไป

ขณะที่บล.ทิสโก้ วิเคราะห์ผลงานNKT  โดยระบุว่า ผลประกอบการเป็นไปตามคาดการณ์  โดย NKT รายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 4/67 ที่ 42.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน แต่ลดลง 51% จากไตรมาสก่อน สอดคล้องกับประมาณการของเรา รายได้ โรงพยาบาลลดลงเล็กน้อย 3.4% จากปีก่อน เนื่องจากรายได้ผู้ป่วยในที่อ่อนแอลง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้เพิ่มขึ้นจาก ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งเดียว กำไรสุทธิได้รับการช่วยเหลือจากค่าใช้จ่ายภาษีที่ต่ำกว่าคาด

ส่วนไตรมาส 1/68 คาดว่ารายได้โรงพยาบาลจะปรับตัวดีขึ้น QoQ จากการฟื้นตัวของจำนวนผู้ป่วยหลังช่วงวันหยุดยาวในไตรมาส 4/66   EBITDA margin ควรเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน เช่นกันจากการไม่มีค่าใช้จ่ายครั้งเดียว ทั้งนี้เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ NKT โดยมูลค่าที่ เหมาะสมเท่ากับ 10.20 บาท

NKT