Talk of The Town

NAM ผู้จำหน่ายสินค้าที่ต้องมีทุก รพ. กับโอกาสเติบโตไปกับกลุ่ม PTT-WHA-PSH


18 มีนาคม 2568

น่าจับตา! สำหรับ บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NAM ผู้พัฒนา ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เครื่องมือการแพทย์ชั้นนำของไทย

NAM ผู้จำหน่ายสินค้า_S2T (เว็บ) copy.jpg

NAM เป็นอีกหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนที่ ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกันกับบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของไทย อย่าง PTT, WHA และPSH ที่ต่างส่งบริษัทในเครือเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ NAM อีกด้วย งานนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง

เส้นทางการเติบโต ของ NAM ในปี 2568 ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 50% นิวไฮต่อเนื่อง โดยใช้กลยุทธ์ขยายธุรกิจผ่านการลงทุนและต่อยอดจากบริษัทย่อยทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงได้รับแรงหนุนจากนโยบายด้านสาธารณสุข เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ และแผนพัฒนาเครื่องมือแพทย์ของภาครัฐ 

นอกจากนี้ NAM ยังมีแผนศึกษาการลงทุนใน Medical Logistics และ Distribution Hub ในต่างประเทศ เพื่อขยายฐานลูกค้าและสร้างการรับรู้แบรนด์สู่ระดับสากล

ล่าสุดนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินมูลค่าเหมาะสมเบื้องต้นอิงสมมติฐาน Scenario analysis อิง PER ที่กรอบ 16 – 20 เท่า ได้ราคาเหมาะสมในกรอบ 5.05 – 8.25 บาท/หุ้น โดยกรณีปกติที่เป็นไปได้มากที่สุดอยู่ที่ 6.50 บาท ไม่รวม Upside จากการร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตร และการทำ M&A เพิ่มเติม

NAM เป็นผู้นำในการพัฒนา และจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์และให้บริการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ระดับปราศจากเชื้อ (Sterilization) มีสินค้ามากกว่า 320 SKUs ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีในทุกโรงพยาบาล 

โดยบริษัทมีนวัตกรรมของตนเอง ภายใต้แบรนด์ของบริษัทเอง และสามารถแข่งขันกับแบรนด์ระดับโลก ด้วยราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า จึงเป็นหนึ่งในจุดแข็งของบริษัทในการชนะงานประมูลโรงพยาบาลรัฐฯ (สัดส่วนรายได้ราว 90%) โดยฝ่ายวิจัยมองว่าบริษัทยังมีโอกาสในการเติบโตอีกมากทั้งจากตลาดในประเทศ และต่างประเทศ

บริษัทเข้าซื้อ Reintech Sdn. Bhd. สัดส่วน 60% ในมาเลเซียในเดือน ส.ค. 2567 เพื่อดำเนินธุรกิจตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ วัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ในประเทศมาเลเซีย กลุ่มการล้างทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่นเดียวกับ NAM เป็นกลยุทธ์ในการบุกตลาดต่างประเทศ บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2568 ที่ 120 ล้านบาท

ขณะที่การเข้าซื้อ Innovative imaging system (IIS) สัดส่วน 60% ในเดือน ม.ค. 2568 ประกอบธุรกิจจำหน่ายเครื่องมือแพทย์กลุ่มเครื่อง X-ray และอุปกรณ์ภายในห้องผ่าตัด มองเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในกลยุทธ์การเติบโตของ NAM เพราะทำให้บริษัทสามารถเพิ่มขอบเขตสินค้าจากเดิมเป็นกลุ่มกลางน้ำ (Sterilization) มาจำหน่ายสินค้ากลุ่มปลายน้า อาทิ อุปกรณ์ต่างๆในห้องผ่าตัด ที่มีความต้องการสูงได้มากขึ้น 

และคาดจะเกิด Synergy ทั้งในด้านขาของรายได้ (การ Cross sell, การเพิ่มฐานลูกค้า, และการเสนอผลิตภัณฑ์ในห้องผ่านตัดใหม่ๆเพิ่มเติม) รวมถึงอัตรากำไรสุทธิ เนื่องจากปัจจุบัน NPM ของ IIS ยังต่ำกว่า NAM พอสมควร และมีดอกเบี้ยจ่ายที่สูง โดยในปี 2567 IIS มีรายได้ราว 700 ล้านบาท จะหนุนรายได้ของ NAM ได้ในไตรมาส 1/2568 เป็นไตรมาสแรก และรับรู้เต็มปีในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าที่ 800 ล้านบาท

โดยมีมุมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตระยะยาวของ NAM ทั้งจากการเติบโตแบบ Organic จากการพัฒนา และจำหน่ายเครื่อง และอุปกรณ์ Sterilization ที่จะเติบโตตามความต้องการด้านการแพทย์ที่สูงขึ้นจากสังคมสูงอายุของไทย ประกอบกับนโยบาย Medical Hub และ Medical Tourism ของภาครัฐฯ 

และการเติบโตแบบ in-organic ผ่านการเข้าซื้อธุรกิจอื่นๆ ที่จะช่วยหนุนการเติบโตมากขึ้น เพิ่มเติมนอกเหนือจาก Reintech และ IIS รวมถึงการขยายธุรกิจในต่างประเทศ และการร่วมมือกับพันธมิตร อาทิ PTT และ WHA เป็น Upside

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2568 แบบ Conservative ที่ 1,700 ล้านบาท เติบโต 50% จากปีก่อน เนื่องจากการเบิกใช้งบภาครัฐฯที่กลับสู่ภาวะปกติ, รับรู้รายได้สินค้าใหม่ และการรับรู้รายได้จาก Reintech และ IIS

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนในการขยายสู่ประเทศอื่นเพิ่มเติมอีก 2 ประเทศในปี 2568 และตั้งเป้าทั้งหมด 15 ประเทศ ภายใน 3 ปี ถือว่าค่อนข้าง Aggressive ด้วย Model ธุรกิจที่เหมือนกับมาเลเซีย คือผ่านการร่วมมือกับบริษัทพันธมิตร และประเมินว่าแม้สัดส่วนรายได้ต่างประเทศของ NAM ปัจจุบันยังไม่สูงนัก แต่มีโอกาสในการขยายการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยปี 2568 จะรับรู้รายได้จากต่างประเทศเต็มปีเป็นปีแรก โดยบริษัทตั้งเป้าที่ 120 ล้านบาท

ขณะที่ประเมินแนวโน้มกำไรปกติของ NAM ในไตรมาส 1/2568 จะเติบโตเด่นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปีก่อนบริษัทได้รับผลกระทบจากการเบิกใช้งบประมาณภาครัฐฯที่ล่าช้า ส่งผลให้ปริมาณคำสั่งซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ชะลอตัว 

อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวสิ้นสุดลง และบริษัทจะรับรู้รายได้จากธุรกิจ Serviso, การเข้าซื้อ Reintech และ IIS เข้ามาหนุนรายได้ 

แต่เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน กำไรอาจชะลอลง เพราะเป็นปกติตามฤดูกาลที่เป็น ช่วง Low Season ตามการเบิกใช้งบประมาณของภาครัฐฯ ซึ่งแนวโน้มผลประกอบการจะทยอยดีขึ้นทั้งจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาส 2-3/2568 จากการเบิกใช้งบประมาณของโรงพยาบาลรัฐฯ ที่สูงขึ้น เป็นปัจจัยหนุนคำสั่งซื้อ 

ดังนั้นเบื้องต้นประเมินกำไรสุทธิของ NAM ในปี 2568 อิงเป้ารายได้ที่ 1,700 ล้านบาท และ NPM ที่ 13 – 17% จะได้กำไรสุทธิปี 2568 ในกรอบ 220 – 290 ล้านบาท เติบโต 22 – 60% จากปีก่อน

มีโอกาสเห็นความร่วมมือกับ PTT และ WHA

สำหรับ PTT และ WHA ต่างลงทุนใน NAM อาจเห็นความร่วมมือทางธุรกิจในอนาคต โดย PTT (ผ่าน Innobic) และ WHA ถือสัดส่วนการลงทุนใน NAM ที่ 15.0% และ 4.3% ตามลาดับ 

มองเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของ NAM ที่มีพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมของประเทศ และมีโอกาสที่จะร่วมมือทางธุรกิจในอนาคต 

โดยล่าสุด NAM ได้เซ็น MOU วันที่ 26 ก.พ. 2568 ในการพัฒนาน้ำยาล้างเครื่องมือแพทย์ชนิดเอนไซม์ประสิทธิภาพสูงกับ PTT และเพิ่มโอกาสการแข่งขันให้กับสินค้าของไทย และลดการพึ่งพาการนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากต่างประเทศ หนุนอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัท และมีโอกาสได้เห็นความร่วมมือเพิ่มเติมอีกในอนาคต

ขณะที่ WHA เป็นผู้นำในด้านโลจิสติกส์ ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ประเมินว่ามีโอกาสในการร่วมมือกันด้านการจัดจำหน่าย และเป็น Medical Distribution Hub ในต่างประเทศตามเป้าหมายของ NAM โดยเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม เป็น Upside risk

NAM ผู้จำหน่ายสินค้า_S2T (เพจ) copy.jpg

NAM