Wealth Sharing
ITC ผนึก "หนานจิง เจียเป่ย เพ็ทแคร์ โปรดักส์" รุกตลาดจีน ปักธงปี 68 ดันยอดขายต่อปีโต 38%
13 มีนาคม 2566
นายพิชิตชัย วงศ์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC เผยว่า บริษัท หนานจิง เจียเป่ย เพ็ทแคร์ โปรดักส์ จำกัด เป็นตัวแทนแต่เพียงผู้เดียวในการจัดจำหน่ายสินค้าอาหารแมวและสุนัขทั้ง 3 แบรนด์ของ ITC ได้แก่ Bellotta, Marvo และ ChangeTer เพื่อขยายธุรกิจและสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ของ ITC ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้นในตลาดจีน ผ่านช่องทางการขายทั้งในโซเชียลมีเดีย สื่อออนไลน์หลักในจีน และเว็ปไซต์วิดิโอ เช่น TikTok, Wechat, เป็นต้น เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์การเสพสื่อและพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคจีนในยุคดิจิทัล ขณะที่ช่องทางออฟไลน์ จะเน้นการทำแฟลกชิฟสโตร์ เพื่อกระจายตามหัวเมืองใหญ่ๆ ในจีน ตลอดจนเข้าร่วมงานแฟร์สำคัญอย่าง The One Pet Show, Pet Expo และ Pet Fair Asia เป็นต้น
“ความร่วมมือกันครั้งนี้นับเป็นก้าวที่สำคัญของไอ-เทลในประเทศจีน นอกจากกลยุทธ์เรื่องการรับจ้างผลิตให้กับแบรนด์ต่างประเทศชั้นนำและลูกค้าในประเทศจีนแล้ว เรายังมุ่งเจาะตลาด e-commerce ที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วและใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ เรามั่นใจว่า ความเชี่ยวชาญด้านการตลาดและประสบการณ์ของบริษัท หนานจิง เจียเป่ยจะสามารถช่วยผลักดันให้ไอ-เทลเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและเติบโตในจีนได้แบบรอบด้านมากขึ้น และคาดว่าภายใน 5 ปี จะสามารถนำสินค้าภายใต้แบรนด์ของเรามากกว่า 70 รายการสร้างยอดขายค้าปลีกได้มากกว่า 1,000 ล้านบาท”
นายแจ็คสัน วู ผู้จัดการทั่วไป บริษัท หนานจิง เจียเป่ย เพ็ทแคร์ โปรดักส์ จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจาก ITC ให้เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าทั้ง 3 แบรนด์ ในประเทศจีน โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าจะเริ่มนำเข้าและทำการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ของ ITC ภายใต้แนวคิด Pet Centric หรือการให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงในการคิดและผลิตอาหารให้ตอบโจทย์ตรงใจ โดยวางแผนว่าจะเริ่มนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าภายในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือครั้งพิเศษเพื่อคิดค้นและพัฒนาสินค้าอาหารและขนมสำหรับน้องหมา น้องแมวสูตรพิเศษที่จะเปิดตัวและจำหน่ายเฉพาะประเทศจีนภายใต้แบรนด์ทั้ง 3 ของ ITC อีกด้วย”
นายพิชิตชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับปี 2565 ยอดขายรวมของ ITC ในประเทศจีนอยู่ที่ 3.3 เปอร์เซ็นต์จากยอดขายทั้งหมดในปี 2022 โดยตั้งเป้ายอดขายในจีนเติบโตเป็น 5.8 เปอร์เซนต์ภายในปี 2568 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ 38.5 เปอร์เซนต์ต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตเร็วกว่าตลาดถึงเกือบ 2 เท่า ขณะที่ภาพรวมธุรกิจ ITC ปีนี้ มีอัตราการเติบโตขึ้นกว่า 47.4 เปอร์เซ็นต์จากปี 2564 ซึ่งสวนทางกับสถานการณ์ของอุตสาหกรรมการส่งออกของไทยที่ชะลอตัวลงในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ ITC ที่สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และเรามีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถเติบโตขึ้นได้ตามที่เราตั้งเป้าหมายไว้ที่ 15 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี และกลยุทธ์การขยายธุรกิจในประเทศจีน จะเป็นอีกส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อน ITC ให้ไปต่อข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง”
“ความร่วมมือกันครั้งนี้นับเป็นก้าวที่สำคัญของไอ-เทลในประเทศจีน นอกจากกลยุทธ์เรื่องการรับจ้างผลิตให้กับแบรนด์ต่างประเทศชั้นนำและลูกค้าในประเทศจีนแล้ว เรายังมุ่งเจาะตลาด e-commerce ที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วและใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ เรามั่นใจว่า ความเชี่ยวชาญด้านการตลาดและประสบการณ์ของบริษัท หนานจิง เจียเป่ยจะสามารถช่วยผลักดันให้ไอ-เทลเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและเติบโตในจีนได้แบบรอบด้านมากขึ้น และคาดว่าภายใน 5 ปี จะสามารถนำสินค้าภายใต้แบรนด์ของเรามากกว่า 70 รายการสร้างยอดขายค้าปลีกได้มากกว่า 1,000 ล้านบาท”
นายแจ็คสัน วู ผู้จัดการทั่วไป บริษัท หนานจิง เจียเป่ย เพ็ทแคร์ โปรดักส์ จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจาก ITC ให้เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าทั้ง 3 แบรนด์ ในประเทศจีน โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าจะเริ่มนำเข้าและทำการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ของ ITC ภายใต้แนวคิด Pet Centric หรือการให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงในการคิดและผลิตอาหารให้ตอบโจทย์ตรงใจ โดยวางแผนว่าจะเริ่มนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าภายในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือครั้งพิเศษเพื่อคิดค้นและพัฒนาสินค้าอาหารและขนมสำหรับน้องหมา น้องแมวสูตรพิเศษที่จะเปิดตัวและจำหน่ายเฉพาะประเทศจีนภายใต้แบรนด์ทั้ง 3 ของ ITC อีกด้วย”
นายพิชิตชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับปี 2565 ยอดขายรวมของ ITC ในประเทศจีนอยู่ที่ 3.3 เปอร์เซ็นต์จากยอดขายทั้งหมดในปี 2022 โดยตั้งเป้ายอดขายในจีนเติบโตเป็น 5.8 เปอร์เซนต์ภายในปี 2568 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ 38.5 เปอร์เซนต์ต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตเร็วกว่าตลาดถึงเกือบ 2 เท่า ขณะที่ภาพรวมธุรกิจ ITC ปีนี้ มีอัตราการเติบโตขึ้นกว่า 47.4 เปอร์เซ็นต์จากปี 2564 ซึ่งสวนทางกับสถานการณ์ของอุตสาหกรรมการส่งออกของไทยที่ชะลอตัวลงในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ ITC ที่สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และเรามีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถเติบโตขึ้นได้ตามที่เราตั้งเป้าหมายไว้ที่ 15 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี และกลยุทธ์การขยายธุรกิจในประเทศจีน จะเป็นอีกส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อน ITC ให้ไปต่อข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง”