รายงานพิเศษ : EA บุกธุรกิจโลจิสติกส์ ผนึก กลุ่มโตโยต้า ทำตลาดแบตลิเธียมไอออน สำหรับการใช้งานในรถฟอร์คลิฟต์ไฟฟ้า

EA กลับมาผงาดอีกครั้ง ส่งบริษัทลูกร่วมมือกับโตโยต้า แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง แวร์เฮ้าส์ โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย)(TMHWST)ทำตลาดแบตลิเธียมไอออน คาดส่งมอบ 100 ลูกแรกภายใน มี.ค.นี้

พลังงานสีเขียวยังเป็นปัจจัยที่มีความต้องการและมีการเติบโตได้อีกมาก  รวมทั้งธุรกิจของ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ที่ตอบโจทย์พลังงานสะอาด ทั้งด้านการพัฒนาและการผลิตสินค้า  จากการที่บริษัทได้ร่วมมือกับ TMHWST ทำตลาดแบตลิเธียมไอออนสำหรับใช้งานกับรถฟอร์คลิฟต์ไฟฟ้า

ซึ่งนายฉัตรพล ศรีประทุม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA ระบุว่า  บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EA ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) กับ บริษัท โตโยต้า แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง แวร์เฮ้าส์ โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ TMHWST เพื่อร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (Business Partner)

โดยอมิตาฯ พัฒนาแบตเตอรี่ต้นแบบ (Battery Prototype) พร้อมกับการออกแบบ การประกอบ การทดสอบแบตเตอรี่และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการศึกษาด้านเครื่องชาร์จประจุไฟฟ้า (Battery Charger) และระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) สำหรับใช้งานกับรถฟอร์คลิฟต์ไฟฟ้า นำไปสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพทดแทนการใช้แบตเตอรี่ตะกั่วกรดแบบดั้งเดิม

ขณะที่ TMHWST จะเป็นผู้พัฒนาตลาดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนภายใต้แบรนด์ TerraXell เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และคลังสินค้าที่ต้องการเพิ่มผลิตภาพ ลดต้นทุนการใช้พลังงาน และเพิ่มความปลอดภัยในกระบวนการขนย้ายสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีกำหนดส่งมอบล็อตแรกกว่า 100 ลูก ภายในเดือน มี.ค.568 พร้อมจำหน่าย-ให้เช่า และบริการหลังการขาย ด้วยแนวคิด "Lithium-ion Battery: The Key to More Productive Operations"

นายจามีกร เผือกสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ TMHWST กล่าวว่า  พลังงานสะอาดไม่ได้เป็นเพียงทางเลือก แต่เป็นพันธกิจสำคัญที่บริษัทชั้นนำให้ความสำคัญเพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม TMHWST ในฐานะผู้นำด้านโซลูชันอินทราโลจิสติกส์และการจัดการคลังสินค้า ได้นำเสนอแบรนด์แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน TerraXell เพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมที่ต้องการทั้งประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความคุ้มค่าระยะยาว เสริมศักยภาพให้เครือข่ายธุรกิจเดินหน้าสู่อนาคตอย่างมั่นคง

"ความร่วมมือครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพที่มีมาตรฐานระดับโลกของแบตเตอรี่ Amita ที่สามารถตอบโจทย์สำคัญในการขับเคลื่อนการใช้พลังงานสะอาดในอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ พร้อมความเป็นไปได้ในการรีไซเคิลแบตเตอรี่และการเตรียมความพร้อมด้านคาร์บอนเครดิต"