ในปี 2568 ก็ได้ใกล้เข้าสู่ช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี แต่สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นไทยก็ยังเป็นเรื่องที่ยากลำบากต่อนักลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่สถานการณ์ของดัชนียังคงปรับตัวลงจากต้นปีมาอย่างต่อเนื่อง แต่นักลงทุนที่ยังคงมองหาการลงทุนทางเราก็ได้หยิบมุมมองการลงทุนที่น่าสนใจมาฝากกันในครั้งนี้
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ให้มุมมองว่าหุ้นที่มีลักษณะสําคัญ 5 อย่างที่เชื่อว่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดในไตรมาส 2/68 ประกอบไปด้วย
1.บริษัทที่มีงบดุลแข็งแกร่ง ซึ่งสามารถรับมือต่อความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความท้าทายที่หลากหลายได้
2. กลุ่มหุ้นเชิงรับและมีรายได้จากตลาดภายในประเทศในสัดส่วนสูง ซึ่งสามารถป้องกันความผันผวนจากภายนอกได้
3. Large-cap ที่มี valuation สมเหตุสมผลและกําไรเติบโต ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากแรงขายภายในประเทศที่ลดลง
4. ได้ประโยชน์จากโมเมนตัมเชิงบวกของการบริโภคภายในประเทศและการลงทุนที่ฟื้นตัว
5. ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและมีนโยบายสนับสนุนในระยะยาว
ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและความเสี่ยงจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของทรัมป์ แต่ยังคงใช้แนวทางการคัดเลือกหุ้นเด่นโดยมุ่งเน้นไปที่บริษัทที่มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง คุณภาพสูง และ valuation ที่สมเหตุสมผล เมื่อพิจารณาจากเกณฑ์เหล่านี้
โดยหุ้นเด่นที่เลือกสําหรับไตรมาส 2/68 ได้แก่ BCH มูลค่าสมเหตุสมผลและกําไรเติบโต, CPALL ได้ประโยชน์จากการบริโภคที่เพิ่มขึ้นและมีสัดส่วนรายได้ในประเทศสูง, CPF ราคาสุกรอยู่ในทิศทางขาขึ้น, KTB โมเมนตัมเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ และ TRUE ผลประกอบการมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น