รายงานพิเศษ : SSP สร้างการเติบโตครั้งใหม่ จ่อ COD โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน เข้าระบบเพิ่มอีก 410 เมกะวัตต์
บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) ไม่ห่วงสัญญาซื้อขายไฟฟ้าทยอยหมดอายุ (Adder) มีโครงการใหม่สร้างรายได้ชดเชย โรงไฟฟ้าพลังงานลม “วินชัย” และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 2 ในประเทศญี่ปุ่น เตรียมCOD อย่างต่อเนื่อง และเข้าโหมดเติบโตรอบใหม่
ไร้กังวล Adder หมด
นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) เปิดเผยว่า โรงไฟฟ้าที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Adder) ที่เริ่มทยอยหมดอายุ เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากจะมีโครงการโรงไฟฟ้าโครงการใหม่เข้ามาสร้างรายได้ชดเชย นำโดยโรงไฟฟ้าพลังงานลม “วินชัย” ขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ ที่บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้น 100% และใน Q4/68 โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 2 ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 22 เมกะวัตต์ จะเริ่มเปิดดำเนินงาน รวมไปถึงโครงการอื่นๆใน Pipeline ที่เตรียม COD ต่อเนื่องตามแผนขยายการลงทุน เตรียมเข้าโหมดเติบโตรอบใหม่
ออกกรีนบอนด์ 2 พันลบ.
ที่ผ่านมา บริษัทฯออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ระยะยาว รวมทั้งหมด 2 รุ่น เพื่อนำไปใช้จะนำเงินไปใช้ในการชำระคืนหนี้หุ้นกู้เดิมที่กำลังจะครบกำหนดไถ่ถอน และรองรับการขยายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy)
หุ้นกู้ครั้งที่ 1/2568 (จัดสรรให้กับผู้ลงทุนสถาบัน) เป็นหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แบบมีประกัน โดยมีผู้ค้ำประกัน คือ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM) อายุหุ้นกู้ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.20% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ มูลค่าเสนอขายรวมไม่เกิน 1,200 ล้านบาท
สำหรับหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2568 (จัดสรรให้กับผู้ลงทุนรายใหญ่) เป็นหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แบบไม่มีประกัน อายุหุ้นกู้ 3 ปี 1 เดือน อัตราดอกเบี้ย 4.90% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ มูลค่าเสนอขายรวมไม่เกิน 800 ล้านบาท
ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งจากผู้ลงทุนสถาบัน ผู้ลงทุนสหกรณ์ รวมถึงผู้ลงทุนรายใหญ่ ท่ามกลาง ทำให้บริษัทฯ สามารถระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้กรีนบอนด์รวมทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท โดยมียอดจองทะลุเกินเป้าหมายกว่า 2 เท่า
จ่อ COD โปรเจคแรก Q4/68
เตรียม COD โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน โซลาร์ฟาร์ม LEO 2 ที่ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 16.4 เมกะวัตต์ ในไตรมาส 4/68 ซึ่งเป็นโครงการโซลาร์ฟาร์ม ที่ต่อเนื่องจากโครงการโซลาร์ฟาร์ม LEO 1 ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 20 เมกะวัตต์ ที่ COD เมื่อไตรมาส 3/2564 และจะเริ่มทยอย COD โครงการใหม่ๆ อีกอย่างต่อเนื่องรวม 158.9 เมกะวัตต์ ภายในปี 2569 ตามแผนระยะสั้น
จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ เพิ่ม 410 MW
สำหรับโครงการในอนาคตของ SSP ตามแผน Pipeline มีมากถึง 410.3 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ( Renewable Energy) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 15 โครงการ รวม 410 เมกะวัตต์ โดยเป็นโครงการโซลาร์ฟาร์มรวม 189 เมกะวัตต์ โครงการวินด์ฟาร์มรวม 204 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 17 เมกะวัตต์ ที่จะสนับสนุนการเติบโตแบบก้าวกระโดด
เปิดผลงานปี 67 รายได้เติบโตดี
ส่วนผลดำเนินงานในปี 2567 บริษัทฯมีรายได้จากการขายไฟฟ้าและบริการ 3,465.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 393.6 ล้านบาท หรือ 12.8% เทียบกับปีก่อน และมีกำไรหลักจากการดำเนินงาน (COP) อยู่ที่ 824.9 ล้านบาท ปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้บริษัทฯ เพิ่มขึ้น มาจากปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้าสะสมปี 2567 จำนวน 619,376 เมกะวัตต์-ชั่วโมง เพิ่มขึ้น 14.3% เทียบกับปีก่อน
ตั้งเป้าโต 2 เท่าตัวในปี 71
“แม้สภาพตลาดทุนของไทยในปัจจุบันจะมีความผันผวนสูง กระทบกับราคาหุ้นทุกบริษัทฯ แต่อยากให้นักลงทุนเชื่อมั่นแผนการดำเนินงานของเรา จากโครงการในอนาคตตามแผน Pipeline อีกกว่า 410.3 เมกะวัตต์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่พร้อมจะสร้างรายได้ให้กับ SSP ต่อเนื่องในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้า เราพยายามอย่างเต็มที่ในการบริหารต้นทุนทางการเงิน เตรียมความพร้อมของกระแสเงินสด รองรับการขยายการลงทุน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงให้กับบริษัทฯ ซึ่งปัจจุบันมีกำลังผลิตอยู่ที่ 285 เมกะวัตต์ และตั้งเป้าหมายขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า