"ประกันสังคม" ตุนบิ๊กแคป เดือนมี.ค.ซื้อเพิ่ม 8 หุ้นใหญ่ พบโกย MINT มากสุด 40.68 ล้านหุ้น
จากการรวบรวมข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในส่วนพอร์ตลงทุนของสำนักงานประกันสังคม(สปส) ซึ่งลงทุนโดยตรงไม่ได้ผ่านการบริหารของกองทุนต่างๆ โดยหุ้นที่สปส.ถือลงทุนได้มีการทยอยปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นในเดือนมี.ค. 68 แล้ว เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับการปิดสมุดทะเบียนครั้งก่อน พบว่า ได้มีการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นขนาดใหญ่ 8 แห่งประกอบด้วย
BBL ล่าสุดถือหุ้น 82,760,940 หุ้น คิดเป็น 4.34 % จากเดิมเคยถือ 76,198,200 หุ้น คิดเป็น 3.99 %
GPSC 54,739,895 หุ้น คิดเป็น1.94 % จากเดิมเคยถือ 44,121,295 หุ้น คิดเป็น1.56 %
HMPRO 552,099,012 หุ้น คิดเป็น 4.2% จากเดิมเคยถือ 525,938,512 หุ้น คิดเป็น4 %
MINT 152,596,538 หุ้น คิดเป็น 2.69% จากเดิมเคยถือ 111,915,459 หุ้น คิดเป็น 1.97 %
MTC 14,943,900 หุ้น คิดเป็น0.7% จากเดิมไม่ปรากฎการถือครองโดยตรง
PTT 518,212,480 หุ้น คิดเป็น 1.81 % จากเดิมเคยถือ 496,528,300 หุ้น คิดเป็น 1.74 %
PTTGC 61,026,751 หุ้น คิดเป็น 1.35 % จากเดิมเคยถือ 58,641,851 หุ้น คิดเป็น1.3 %
SCB 111,692,960หุ้น คิดเป็น 3.32 % จากเดิมเคยถือ 100,695,600 หุ้น คิดเป็น 2.99 %
จากข้อมูลข้างต้นจะพบว่า แต่หุ้นมีการถือครองเพิ่ม โดยเฉพาะหุ้น MINT , HMPRO, PTT ดังนี้
BBL ถือครองเพิ่มขึ้น จำนวน 6,562,740 หุ้น
GPSC 10,618,600 หุ้น
HMPRO 26,160,500 หุ้น
MINT 40,681,079 หุ้น
MTC 14,943,900 หุ้น
PTT 21,684,180 หุ้น
PTTGC 2,384,900 หุ้น
SCB 10,997,360 หุ้น
สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้นMINT ในรอบครึ่งแรกของเดือนมี.ค. 68 ปรับตัวลดลง 5.17% ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปรับตัวลดลง 2.53%
ด้านบล.บัวหลวง ระบุว่า ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ของหุ้นMINT บริษัทฯตั้งเป้ารายได้โต 6-8% และกำไรโต 15-20% จากการเปิดโรงแรมและร้านอาหารเพิ่มทั่วโลก ไปยังประเทศใหม่ๆ ผ่านการลงทุนแบบแฟรนไชส์เป็นหลัก และดอกเบี้ยจ่ายลด บริษัทมองบวกจากกระแสซีรีย์ White Lotus จะเป็นบวกต่อการท่องเที่ยวไทยในภาพลักษณ์ท่องเที่ยวหรู สอดคล้องกับแนวโน้มการใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยวสูงขึ้น และโรงแรม 4 โรงของ MINT ที่ใช้ในการถ่ายทำ มียอดจองห้องพักสูงขึ้น และ ADR ปรับขึ้นแล้ว เราชอบ MINT มากขึ้น และมองเห็นอัพไซด์จากประมาณการ คงคำแนะนำ ซื้อ
สอดคล้องกับบล.ทิสโก้ ประเมินหุ้น MINT โดยแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าที่เหมาะสม 43.00 บาท
การประชุมมีมุมมองที่เป็นบวก MINT ได้ปรับปรุงกลยุทธ์ 3 ปีให้ละเอียดขึ้น โดยมุ่งเน้นการขยายธุรกิจแบบ asset light และการลดหนี้ MINT คาดการณ์การเติบโตของรายได้ที่ 6-8% โดยขับเคลื่อนจากส่วนโรงแรมมากกว่าส่วนอาหาร และคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 15-20% MINT ระบุว่า 90% ของแผนงานในอนาคตจะเป็นการขยายธุรกิจแบบ asset-light
กลยุทธ์และแนวโน้มด้านโรงแรม : MINT คาดว่าจะใช้การเพิ่มสินทรัพย์แบบ asset light มากขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มค่าธรรมเนียมการบริหาร การปรับปรุงแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เป็นของตัวเอง การปรับต้นทุนโรงแรมทั่วโลก และการเพิ่มการเปิดรับบริหารโรงแรมจะช่วยปรับปรุงอัตรากำไรให้ดีขึ้น
กลยุทธ์และแนวโน้มด้านอาหาร : MINT คาดว่าจะรับร้านแฟรนไชส์มากขึ้นในประเทศไทยและกลุ่ม CLMV พร้อมทั้งมุ่งเน้นการเจาะตลาดใหม่ เช่น อินโดนีเซียและอินเดีย โดยรวมแล้ว MINT จะมุ่งเน้นการวางตำแหน่งแบรนด์ระดับพรีเมียม เพื่อเพิ่มความสามารถในการขึ้นราคาและชดเชยความผันผวนของต้นทุนในอนาคต
เป้าหมายโครงสร้างเงินทุน: MINT ตั้งเป้าที่จะลดอัตราส่วน net IBD-E เหลือ 0.75 เท่าภายในสิ้นปี 2025 ผู้บริหารระบุว่าโครงการ REIT จะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีและ MINT ยังคงดำเนินการหมุนเวียนสินทรัพย์อยู่ อย่างไรก็ตาม MINT ระบุว่ามีเงินสด และวงเงินสินเชื่อ 50,000 ล้านบาท พร้อมสำหรับการลงทุนในอนาคต