TFG มาร์เก็ตแคปทะยาน 2.5 หมื่นล้านบาท จับตาไตรมาส 1/68 กำไรเติบโตโดดเด่น
เมื่อราคาสุกรเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูง ประกอบกับ ข้อมูลส่งออกเดือน ก.พ. 68 ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง ที่ยังขยายตัวดีต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสของบริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG ผู้ประกอบธุรกิจหลักเกี่ยวกับการผลิตไก่และจำหน่ายไก่สด แช่เย็นและแช่แข็งและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากไก่ ผลิตและจำหน่ายสุกร และผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์
ย้อนไปผลประกอบการปี 2567 บริษัทโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นมีรายได้รวม 66,081 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.87% จากปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 56,541 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ และมีกำไรสุทธิ 3,143 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 486.93% จากปีที่ผ่านมาขาดทุนสุทธิ 812 ล้านบาท
แรงผลักดันสำคัญ มากจาก ธุรกิจสุกรในประเทศเวียดนามที่ราคาอยู่ในระดับสูง และปริมาณสุกรขยายตัวต่อเนื่องจากการลงทุนขยายฟาร์มในช่วงก่อนหน้า รวมทั้งราคา และปริมาณขายของไก่ที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังได้รับปัจจัยบวกจากยอดขายร้านค้าปลีก "ไทยฟู้ดส์ เฟรซ มาร์เก็ต" (Retail Shop) เติบโต
นับจากต้นปี 2568 จนถึงวันที่ 24 มี.ค.68 พบว่า ราคาหุ้น TFG ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น กว่า 28.99% และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือ มาร์เก็ตแคป ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาสู่ระดับกว่า 25,335 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5,694 ล้านบาท จากสิ้นปี 2567
หากเข้าไปสำรวจทิศทางธุรกิจ TFG นายเพชร นันทวิสัย ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ TFG ระบุว่า ปี 2568 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% จากปีที่ผ่านมา และเตรียมขยายสาขาร้านค้าปลีก "ไทยฟู้ดส์ เฟรซ มาร์เก็ต" (Retail Shop) ให้มีจำนวนสาขา 600 แห่งในปี 2568 จากปีที่ผ่านมามีสาขาอยู่ที่ 401 แห่ง โดยรองรับความต้องการของผู้บริโภค และเพิ่มมาร์จิ้นให้ธุรกิจ
และอีกหนึ่งความน่าสนใจ นักวิเคราะห์ผสานเสียงเชียร์ “ซื้อ” หลังทิศทางไตรมาส 1/68 คาดจะเติบโตอย่างโดดเด่น ขณะที่ราคาสุกรยังปรับเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 4.80 บาท โดยประเมินแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/68 คาดเติบโตต่อทั้งจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนจากราคาขายเฉลี่ยหมูในประเทศ และเวียดนามที่ปรับขึ้นเด่น ขณะที่ต้นทุนลดลง โดยประเมินภาพรวมทั้งปี 2568 จะมีกำไรสุทธิ 3,930 ล้านบาท เติบโต 25% จากปีก่อน
ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 5.90 บาท โดยมองแนวโน้มไตรมาส 1/68 คาดเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน เนื่องจาก จากราคาปศุสัตว์ทั้งไก่และสุกรที่เพิ่มขึ้น โดยราคาสุกรปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก supply ทั่วโลกที่ลดลงจากโรค ASF ยังคงระบาด
ในขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ทั้งข้าวโพดอาหารสัตว์ และกากถั่วเหลือยังมีแนวโน้มทรงตัวในระดับต่ำส่งผลให้อัตรามาร์จิ้นดีขึ้น
ทั้งนี้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2568-69 เพิ่มขึ้นจากคาดเดิม 59% และ 68% ส่งผลให้คาดการณ์กำไรสุทธิ 3,959 ล้านบาท เติบโต 26% จากปีก่อน
โดยธุรกิจสุกรที่ดีขึ้นในไทยและเวียดนามและการขยายร้านค้าปลีก 1.ธุรกิจสุกรดีขึ้น คาดรายได้ปี 2568 เพิ่มขึ้น 15% และปีถัดไปเพิ่มขึ้น 8% จากคาดราคาขายเฉลี่ยที่ 75 บาท/กก. และปริมาณการขายเพิ่มขึ้น ธุรกิจสุกรในเวียดนาม บริษัทมีการขยายกำลังการผลิตในช่วงปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเท่าตัว
2. ธุรกิจไก่คาดเพิ่มขึ้น จากการเน้นจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกของบริษัทเพิ่มขึ้น คาดการส่งออกปีนี้ 7 หมื่นตัน ส่งออกไปญี่ปุ่น จีน และกลุ่มยุโรปเป็นหลัก
3.คาดร้านค้าปลีกมีสาขาเพิ่มขึ้นปัจจุบัน 430 สาขา (สิ้นปี 2567 ปิดที่จำนวน 401 สาขา) คาดอัตราทำกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากแนวโน้มต้นทุนอาหารสัตว์ลดลงตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้นทั้งกากถั่วเหลืองและข้าวโพดอาหารสัตว์
ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดว่ากำไรของ TFG จะเติบโตแข็งแกร่ง 32%ในปี 2568 มาอยู่ที่ 4.14 พันล้านบาท (ปรับประมาณการขึ้น 25%) ปัจจัยหนุนหลักมาจากราคาสุกรในประเทศไทยและเวียดนามเพิ่มขึ้น และการขยายกำลังการผลิต
โดยที่ปัจจัยทั้งสองนี้จะส่งผลบวกต่อทั้งการเติบโตของยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ขณะที่ การปรับปรุงช่องทางการขายต่าง ๆ จะช่วยดันให้ GPM สูงขึ้น
นอกจากนี้ คาดว่าค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลงจะเป็นอีกปัจจัยหนุนในช่วงสองปีข้างหน้า คงคำแนะนำ “ซื้อ” TFG และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2568 ขึ้นเป็น 5.25 บาท จากเดิม 5.05 บาท