Wealth Sharing
Telemedicineพลิกโฉมระบบรักษาพยาบาล คาดสร้างเม็ดเงินให้อุตฯรพ.ปี66 เกือบ 6 พันลบ.
13 มีนาคม 2566
ttb analytics มองธุรกิจ Telemedicine เป็นปัจจัยพลิกโฉมระบบรักษาพยาบาลไทย คาดระยะเริ่มต้นจะครอบคลุมสิทธิ์ผ่านประกันกลุ่มกว่า 2.6 ล้านราย สร้างเม็ดเงินเพิ่มในปี 2566 เกือบ 6 พันล้านบาท บนศักยภาพที่ขยายได้หลายเท่าตัว
![Telemedicine พลิกโฉมระบบรักษาพยาบาล.jpg](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2023/130323/Telemedicine%20%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%89%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5.jpg)
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics คาดธุรกิจ Telemedicine จะสร้างรายได้ส่วนเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมสุขภาพของไทยในปี 2566 ราว 4-6 พันล้านบาท จากระบบประกันกลุ่มที่เอื้ออำนวยต่อการเข้ารับบริการ ทั้งนี้คาดธุรกิจ Telemedicine ยังมีศักยภาพขยายตัวต่อเนื่องทั้งในมิติของการเพิ่มศักยภาพและการขยายขอบเขตในการให้บริการ
ส่งผลให้ตลาด Telemedicine ทั่วโลก ในปี 2566 มีมูลค่าสูงขึ้นแตะ 1.94 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงขึ้นจากปี 2562 ที่ 4.99 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ บนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับศักยภาพ Telemedicine เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจนในปัจจุบันมีความใกล้เคียงกับการเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลโดยเฉพาะในคนไข้กลุ่มติดตามอาการ (Follow-ups) ส่งผลให้ตลาด Telemedicine ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องโดยคาดว่าในปี 2568 มูลค่าตลาดจะขยับแตะ 2.78 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ของประเทศไทย พบว่า ตลาด Telemedicine ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น (Early Stage) คาดว่าจะขับเคลื่อนผ่านระบบประกันสุขภาพกลุ่มเป็นลำดับแรก ซึ่งมีกว่า 2.6 ล้านกรมธรรม์ ในปี 2565 เริ่มมีการตอบรับการใช้สิทธิ์ผ่านระบบ Telemedicine เพื่อเข้ารับบริการการดูแลรักษาในฐานะผู้ป่วยนอก (OPD) โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ประกอบกับกลุ่มการเจ็บป่วยเล็กน้อย (Minor Illnesses) หรือกลุ่มติดตามอาการ (Follow-ups) ที่รักษาโดยไม่ต้องรับการหัตถการจากบุคลากรทางการแพทย์ หรือ กลุ่มที่รับการรักษาโดยการรับประทานยา
นอกจากนี้ ตลาด Telemedicine ในไทยยังได้รับประโยชน์จากกลุ่มธุรกิจขนส่งบรรจุภัณฑ์ (Third Part Logistic) ที่มีพื้นที่บริการครอบคลุมเกือบทั้งหมดในจังหวัดหลัก ที่มีส่วนช่วยสนับสนุนการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ให้ถึงมือผู้เข้ารับบริการ Telemedicine ภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมงหลังเข้ารับบริการ
ttb analytics จึงประเมินศักยภาพการเข้ารับการรักษาพยาบาลผ่านรูปแบบ Telemedicine ในปี 2566 จะช่วยเพิ่มจำนวนการเข้ารับการรักษาพยาบาลในฐานะผู้ป่วยนอก (OPD) และคาดว่าจะช่วยสร้างเม็ดเงินให้กับอุตสาหกรรมโรงพยาบาลเอกชนไทยเพิ่มขึ้นอีกราว 4,000-6,000 ล้านบาท
ในภาพรวมของธุรกิจสุขภาพไทย Telemedicine จะเป็นปัจจัยพลิกโฉมรองรับผู้ป่วยนอกได้ดีขึ้น โดยคาดว่าปี 2566 ได้เริ่มขับเคลื่อนผ่านระบบประกันสุขภาพกลุ่มเป็นลำดับแรก พร้อมทั้ง พัฒนาศักยภาพไปสู่การให้บริการกับกลุ่มคนอื่น ๆ ต่อไป นอกจากนี้ ยังทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น การขนส่ง ไอทีต่าง ๆ ขยายตัวรองรับการเติบโตด้วยเช่นกัน
![Telemedicine พลิกโฉมระบบรักษาพยาบาล.jpg](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2023/130323/Telemedicine%20%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%89%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5.jpg)
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics คาดธุรกิจ Telemedicine จะสร้างรายได้ส่วนเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมสุขภาพของไทยในปี 2566 ราว 4-6 พันล้านบาท จากระบบประกันกลุ่มที่เอื้ออำนวยต่อการเข้ารับบริการ ทั้งนี้คาดธุรกิจ Telemedicine ยังมีศักยภาพขยายตัวต่อเนื่องทั้งในมิติของการเพิ่มศักยภาพและการขยายขอบเขตในการให้บริการ
ส่งผลให้ตลาด Telemedicine ทั่วโลก ในปี 2566 มีมูลค่าสูงขึ้นแตะ 1.94 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงขึ้นจากปี 2562 ที่ 4.99 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ บนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับศักยภาพ Telemedicine เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจนในปัจจุบันมีความใกล้เคียงกับการเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลโดยเฉพาะในคนไข้กลุ่มติดตามอาการ (Follow-ups) ส่งผลให้ตลาด Telemedicine ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องโดยคาดว่าในปี 2568 มูลค่าตลาดจะขยับแตะ 2.78 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ของประเทศไทย พบว่า ตลาด Telemedicine ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น (Early Stage) คาดว่าจะขับเคลื่อนผ่านระบบประกันสุขภาพกลุ่มเป็นลำดับแรก ซึ่งมีกว่า 2.6 ล้านกรมธรรม์ ในปี 2565 เริ่มมีการตอบรับการใช้สิทธิ์ผ่านระบบ Telemedicine เพื่อเข้ารับบริการการดูแลรักษาในฐานะผู้ป่วยนอก (OPD) โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ประกอบกับกลุ่มการเจ็บป่วยเล็กน้อย (Minor Illnesses) หรือกลุ่มติดตามอาการ (Follow-ups) ที่รักษาโดยไม่ต้องรับการหัตถการจากบุคลากรทางการแพทย์ หรือ กลุ่มที่รับการรักษาโดยการรับประทานยา
นอกจากนี้ ตลาด Telemedicine ในไทยยังได้รับประโยชน์จากกลุ่มธุรกิจขนส่งบรรจุภัณฑ์ (Third Part Logistic) ที่มีพื้นที่บริการครอบคลุมเกือบทั้งหมดในจังหวัดหลัก ที่มีส่วนช่วยสนับสนุนการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ให้ถึงมือผู้เข้ารับบริการ Telemedicine ภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมงหลังเข้ารับบริการ
ttb analytics จึงประเมินศักยภาพการเข้ารับการรักษาพยาบาลผ่านรูปแบบ Telemedicine ในปี 2566 จะช่วยเพิ่มจำนวนการเข้ารับการรักษาพยาบาลในฐานะผู้ป่วยนอก (OPD) และคาดว่าจะช่วยสร้างเม็ดเงินให้กับอุตสาหกรรมโรงพยาบาลเอกชนไทยเพิ่มขึ้นอีกราว 4,000-6,000 ล้านบาท
ในภาพรวมของธุรกิจสุขภาพไทย Telemedicine จะเป็นปัจจัยพลิกโฉมรองรับผู้ป่วยนอกได้ดีขึ้น โดยคาดว่าปี 2566 ได้เริ่มขับเคลื่อนผ่านระบบประกันสุขภาพกลุ่มเป็นลำดับแรก พร้อมทั้ง พัฒนาศักยภาพไปสู่การให้บริการกับกลุ่มคนอื่น ๆ ต่อไป นอกจากนี้ ยังทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น การขนส่ง ไอทีต่าง ๆ ขยายตัวรองรับการเติบโตด้วยเช่นกัน