รายงานพิเศษ : EURO ธุรกิจยังเติบโตได้ต่อ หลังดีมานด์ซื้อบ้านราคาแพงหนุน พร้อมรับรู้รายได้เต็มปีโชว์รูมใหม่ 3 แห่ง

ต้องยอมรับว่าปัจจุบันกำลังซื้อในประเทศถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง  ผลจากภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่ยังมีกลุ่มคนบางกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบ และยังจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  ซึ่งสนับสนุนและสร้างรายได้ให้ บมจ.ยูโร ครีเอชั่นส์  (EURO) ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ Luxurious & High Quality Living

โดยสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ระบุแนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านปี 2568 โดยรวมสัญญาณค่อนข้างดีขึ้นจากปัจจัยสนับสนุน ทั้งการลดอัตราดอกเบี้ย ผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นจากนโยบายของรัฐบาล ซึ่งน่าจะมีข่าวดีจากโครการ ซ่อม สร้าง   นอกจากนี้กลุ่มดีมานด์บ้านหรูยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในตลาดกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด 

สอดคล้องกับมุมมองของแผนกวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย  ที่คาดการณ์แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 ที่ยังคงเผชิญความท้าทายจากกำลังซื้อที่ชะลอตัว แต่ในบางเซ็กเมนต์บ้านหรูและคอนโดมิเนียมยังคงเติบโตจากดีมานด์เฉพาะกลุ่ม ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในทำเลศักยภาพ

ตอกย้ำจากบริษัท อเรย์ โฮมบิลเดอร์ จำกัด (ARRAY HOMEBUILDER) ที่ระบุว่า แม้ตลาดรับสร้างบ้านปี 2568 จะยังคงเผชิญความท้าทายจากกำลังซื้อที่ชะลอตัว  แต่ในบางเซ็กเมนต์ยังมองเห็นสัญญาณการเติบโต โดยเฉพาะกลุ่มตลาดรับสร้างบ้านหรูระดับราคา 20 - 30 ล้านบาท  จากดีมานด์ของกลุ่มเศรษฐีคนรุ่นใหม่ (Young Millionaire) และนักธุรกิจรุ่นใหม่ เฉลี่ยอายุ 30 ปี ขึ้นไป ประสบความสำเร็จเร็ว และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งส่วนใหญ่นิยมซื้อ หรือ สร้างบ้านด้วยเงินสด

ยอดขายบ้านที่เติบโต ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง  โดยเฉพาะการตกแต่งภายในที่ต้องตามมา โดยเฉพาะบ้านราคาแพงที่การตกแต่งบ้าน จะเน้นการหรูหรา โดดเด่น  ไม่ซ้ำใคร  สอดคล้องกับการทำธุรกิจของ บมจ.ยูโร ครีเอชั่นส์  (EURO) ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ Luxurious & High Quality Living 

ซึ่ง นายเควิน กัมบีร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  ระบุในปี 2568 บริษัทฯ คาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้เต็มปีจาก 3 โชว์รูมใหม่ในปี 2567 ได้แก่ 

1. Euro Creations Flagship Gallery /Phuket

2. Poltrona Frau Flagship Store /T5 และ 

3. Frette Flagship store at Central Embassy 

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนเปิด 2 โชว์รูมใหม่ ได้แก่ Bang & Olufsen (B&O) at Central Embassy และ Molteni&C Flagship Store /T5 และ 1 Pop-up Store ได้แก่ Bang & Olufsen (B&O) at Emporium เพิ่มเติมด้วย

ขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้ประเมินกำลังซื้อของกลุ่ม UHNWI  เชื่อว่ายังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น พร้อมไปกับการขยายตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่ และความต้องการสินค้าคุณภาพสูงที่สะท้อนตัวตนและไลฟ์สไตล์ รวมถึงเทรนด์ Wellness & Sustainable Luxury ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น จึงเชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยเชิงบวกที่ช่วยส่งเสริมให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต