รายงานพิเศษ : HFT วางกลยุทธ์สำคัญ รุกหนักบุกตลาดยุโรป-สหรัฐฯ หวังสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน
เศรษฐกิจยุโรปและสหรัฐฯ ยังมีการเติบโตได้ดี แม้ยังมีปัจจัยที่ท้าทาย ซึ่งเป็นโอกาสในการขยายตลาดของธุรกิจยางล้อรถขนาดเล็กอย่าง บมจ.ฮั้วฟงรับเบอร์ (ไทยแลนด์) (HFT) ที่วางกลยุทธ์ให้ตลาดต่างประเทศ ช่วยสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีพุ่งขึ้นสู่ระดับ 51.6 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2566 จากระดับ 26.0 ในเดือนก.พ. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 48.1
ดัชนีความเชื่อมั่นได้รับแรงหนุนจากนโยบายการคลังของรัฐบาลเยอรมัน รวมทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 6 ครั้งของธนาคารกลางยุโรป (ECB)
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นดังกล่าวมาจากการสำรวจนักวิเคราะห์ทางการเงินราว 350 คนจากธนาคาร บริษัทประกัน และบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของเยอรมนี
เศรษฐกิจยุโรปเป็นหนึ่งในตลาดที่ บมจ.ฮั้วฟงรับเบอร์ (ไทยแลนด์) (HFT) วางกลยุทธ์ที่จะขยายการเติบโต ขยายฐานลูกค้า สร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต
“จวง จื้อ เหยา” Vice President ระบุว่า แผนธุรกิจปี 2568 บริษัทฯ มุ่งเน้นการขยายตลาดส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยจัดเตรียมแผนการตลาดที่เข้มข้นและพิจารณาเพิ่มพันธมิตรทางธุรกิจในภูมิภาคดังกล่าว เพื่อขยายเครือข่ายลูกค้าและเพิ่มยอดขาย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืนและการลดก๊าซเรือนกระจก จึงเตรียมที่จะดำเนินการติดตั้ง Biomass boiler ในโรงงานที่ 2 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในต้นปี 2569 ซึ่งโครงการดังกล่าวจะสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 6,500 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ส่วนความคืบหน้าการติดตั้งโซลาร์รูฟ ขณะนี้ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้ง 2 โรงงาน เริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ภายในโรงงานได้แล้ว ซึ่งจะสามารถลดการใช้ไฟฟ้าไปประมาณ 15-20% ทั้งนี้บริษัทฯ ได้รับใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (I-REC) เพื่อให้เป็นองค์กรที่ใช้พลังงานสะอาด 100% และเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมาคมพลังงานหมุนเวียนไทย (กลุ่ม RE100) เพื่อตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการใช้พลังงานทางเลือกที่ยั่งยืน
"บริษัทฯ คาดว่ารายได้ปี 2568 จะเติบโต 5-10% จากยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นตามดีมานด์ของลูกค้าที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ ประกอบด้วยยางนอกและยางในสำหรับรถจักรยาน รถจักรยานยนต์ และรถขนส่งขนาดเล็ก เช่น รถเข็น รถยก รถแทรกเตอร์ รถตุ๊กตุ๊ก และรถกอล์ฟ"
ส่วนผลการดำเนินงานงวดปี 2567 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2567) บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย 3,024.43 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.16% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 2,649.29 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 373.33 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 49.41% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 249.87 ล้านบาท