Talk of The Town

โบรกฯ ชี้หุ้นไทยวันนี้ดิ่ง 3% คาดอสังหาฯ ประกัน โดนหนัก เตือนอย่าแพนิค รัฐฯ มีแผนฟื้นฟู


31 มีนาคม 2568

เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มี.ค.2568 ที่ผ่านมา เกิดเหตุแผ่นดินไหว ศูนย์กลางในประเทศ เมียนมา ทำให้ประเทศไทย ได้รับผลกระทบตามไปด้วย จนเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ต่อความเสียหายของตึกสูง และบ้านเรือน 

โบรกฯ ชี้หุ้นไทยวันนี้ดิ่ง 3__S2T (เว็บ)_0.jpg

แต่ในแง่ของตลาดทุน นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ประเมิน SET จะลดลงเพียงระยะสั้น ราว -1.8-3% ประเมินกรอบตั้งรับ 1,155- 1,130 จุด และน่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวหลังจากนั้นใน 3 วัน หากไม่มีปัจจัยลบใหม่ เนื่องจากรัฐบาลน่าจะมีแผนฟื้นฟู กระตุ้นเศรษฐกิจตามมา แนะนำนักลงทุนอย่า Panic ต่อประเด็นดังกล่าว และค่อยๆ พิจารณาวางกลยุทธ์ ดังข้อมูลต่อไปนี้

ปัจจัยกระทบหลัก วันศุกร์ 13.20 น. เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ขนาด 8.2 ริกเตอร์ที่ประเทศเมียนมาร์ สร้างความเสียหายรุนแรงในเมียนมาร์ และเกิดแรงสั่นสะเทือนมาที่ประเทศไทยแบบไม่คาดคิด ซึ่งเป็นแผ่นดินไหวในเขตเศรษฐกิจ กทม ครั้งที่รุนแรงที่สุด ส่งผลอาคารสำนักงานใหม่ของ สตง. ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างถล่ม และความเสียหายบางส่วนต่ออาคารสูง ในเขต กทม.

กรณีศึกษาในอดีต 1.. สีนามิในไทย วันที่ 26 ธ.ค. 2547 SET ปรับตัวลง -1.2% ในวันทำการหลังเกิดเหตุ และฟื้นตัวภายใน 2 วันทำการ สู่ระดับเดิม (น่าจะนำมาประกอบการวิเคราะห์ได้ แม้เหตุการณ์นี้จะรุนแรงกว่าสถานการณ์ปัจจุบัน)

กลุ่มที่ Outperform กว่า SET ใน 1 วัน ทำการหลังเกิดเหตุ คือ วัสดุก่อสร้าง , สื่อสาร, อาหาร, ร.พ. และปิโตรเคมี ส่วนกลุ่มที่ Underperform ตลาด คือ กลุ่มท่องเที่ยว, กลุ่มเช่าซื้อ, กลุ่มธนาคาร และกลุ่มอสังหาฯ

กลุ่มที่ Outperform กว่า SET ใน 1 สัปดาห์ หลังเกิดเหตุ คือ วัสดุก่อสร้าง , สื่อสาร, แพ็คเกจจิ้ง, บันเทิง และพลังงงาน ส่วนกลุ่มที่ Underperform ตลาด คือ กลุ่มท่องเที่ยว และ กลุ่มประกัน ซึ่งล้วนแล้วแต่กระทบโดยตรงจากผลเสียหายของสึนามิในไทย

ส่วนความเห็นนักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) มอง กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลกระทบเชิง “ลบ” มากที่สุดจากเหตุแผ่นดินไหวคงไม่พ้นกลุ่มประกันภัย และกลุ่มอสังหาฯ โดยเฉพาะบริษัทที่มีรายได้จากการสร้างและโอนคอนโดฯ เป็นหลัก อย่าง ORI (สร้างเสร็จปีนี้ 2.3 หมื่นล้าน) SIRI (สร้างเสร็จปีนี้1.4 หมื่นล้าน) ANAN (สร้างเสร็จปีนี้ 1.19 หมื่นล้าน) AP (สร้างเสร็จปีนี้ 1.04 หมื่นล้าน) 

ขณะที่บริษัทที่มีรายได้จากคอนโดฯ ไม่มาก และไม่ได้มีโครงการคอนโดฯ ที่จะสร้างเสร็จ และโอนในปีนี้ อย่าง LH QH และ SC จะได้รับผลกระทบจำกัดกว่า

อีกทั้งยังเห็นปัจจัยลบเล็กน้อยต่อกลุ่มท่องเที่ยว ธนาคาร-การเงิน และอาหาร โดยผู้บริโภคอาจต้องจำกัดการใช้จ่ายบางส่วนมาใช้ สำหรับการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยในช่วงนี้ด้วย

กลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมอาคาร โดยเฉพาะคอนโดฯ คงไม่พ้นกลุ่ม Home Improvement โดยเฉพาะบริษัทที่มีสาขาอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นหลัก อย่าง HMPRO รวมถึงบริษัท ที่ผลิตสินค้าที่ใช้สำหรับการซ่อมแซม ไม่ว่าจะเป็นกาวปูน ยาแนว และสีทาภายนอก-ภายในอย่าง TOA นอกจากนี้เราคาดว่าจะเห็นความต้องการในการทำประกันภัยมากขึ้น โดยเฉพาะใน กลุ่มเจ้าของคอนโดฯ ที่ไม่ได้มีภาระผ่อนกับธนาคารแล้ว น่าจะเห็นความสำคัญของการทำประกันภัยต่อไปมากขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสของ นายหน้าประกันอย่าง TQM