Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 01-04-25 (สวัสดีไตรมาส 2/68-วันนี้ลุ้นหุ้นรีบาวด์)


01 เมษายน 2568

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 01-04-25 (สวัสดีไตรมาส 2/68-วันนี้ลุ้นหุ้นรีบาวด์)

 

01-04-25 สวัสดีปีใหม่ 2568 “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ 

*** กลับมาแล้วคร๊าาาาาา!!! รายงานตัวที่เก่า เวลาเดิม เพิ่มเติมคือคิดถึงและห่วงใยแฟนๆ เป็นอย่างยิ่ง!! ตอนนั้นเจ๊ยังอยู่ ตปท.ค่ะ ได้แต่ติดตามข่าวสารผ่านโซเชียลมีเดีย!!! สำหรับ SET INDEX เมื่อวานรับรู้ไปแล้วลดลง -17.36 จุด ยืนที่ 1158.09 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 40,260 ลบ.

***บรรดากูรูหุ้นจากหลายค่ายประเมินกันว่าผลกระทบแผ่นดินไหว จะกระทบเพียงระยะสั้นในวัน และน่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวหลังจากนี้ใน 3 วัน หากไม่มีปัจจัยลบใหม่ เนื่องจากผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจและหุ้นในตลาดค่อนข้างจำกัด โดยกลุ่มอสังหาฯระยะสั้น จะมีความกังวลต่อโครงการแนวดิ่ง แต่สัดส่วนอสังหาฯในไทย คิดเป็นเพียง 2.5% ของ GDP ปี 2024 ขณะที่กลุ่มประกันมูลค่าความเสียหายราว 2.2-2.5 พันล้านบาท คิดเป็น Market EPS เพียง -0.05 บาทต่อหุ้น ส่วนหุ้นที่มีธุรกิจในเมียนมาร์ เป็นหุ้นขนาดกลางเครื่องดื่มและอาหารเป็นส่วนใหญ่ และสุดท้ายกลุ่มท่องเที่ยว บริษัทส่วนใหญ่ แจ้งว่ายังไม่มีการยกเลิก Booking แบบมีนัยฯ และโรงแรมยังสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ

***มีประเมินผลกระทบเชิงพื้นฐานรายกลุ่มจากกูรูหุ้น เริ่มที่ a. กลุ่มที่ได้รับผลกระทบเชิงลบ :

*** กลุ่มที่มีธุรกิจในเมียนมาร์ มีสัดส่วนรายได้ในเมียนมาร์สูง แม้ส่วนใหญ่ทรัพย์สินไม่มีความเสียหาย แต่น่าจะกระทบต่อกำลังซื้อ ได้แก่ MEGA 30%, OSP 10% CBG 7% และ ICHI 7% ตามลำดับ ส่วน TOA (2-3% ของรายได้) และ THG (ถือหุ้น 40% ใน ร.พ. Ar Yu) คาดเป็นกลาง

***กลุ่มที่มีธุรกิจเกี่ยวโยงกับกรณีอาคาร สตง. ถล่ม คือ ผู้รับเหมา ITD (ส่วนเจ้าหนี้ คือ ธนาคารคาดกระทบจำกัด เพราะได้ตั้งสำรองไปแล้ว)

***ประกันที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาคารดังกล่าว TIPH (40% ของวงเงินประกัน 2.2 พันล้านบาท หรือราว 896 ล้านบาท vs ระดับเงินกองทุนส ารองใช้ได้ 7.6 พันล้านบาท ขณะที่คิดเป็นผลกระทบ 1.5 บาทต่อหุ้น) , BKIH (25% ของวงเงินประกัน 2.2 พันล้านบาท หรือราว 560 ล้านบาท vs เงินกองทุนสำรองใช้ได้ 4.1 หมื่นล้านบาท ขณะที่คิดเป็นผลกระทบต่อหุ้นราว 5.4 บาท )

***กลุ่มอสังหาฯ ที่มีโครงการแนวดิ่ง ในรายที่มียอดขายคอนโดสัดส่วนสูง ANAN LPN ORI สัดส่วน 84%, 82% และ 76% ของยอดโอนรวมปี 2024 และในส่วนที่มีความเสียหายออกสื่อมากกว่าบริษัทอื่นๆ AP และ ORI ต้องรอการตรวจสอบฟื้นความเชื่อมั่น

***คำแนะนำ : สำหรับกลุ่มที่ได้รับผลกระทบเชิงลบ ระยะสั้นหลีกเลี่ยง แต่ให้รอโอกาสสะสม เพื่อระยะกลาง เช่น กลุ่มอสังหาฯ ที่อาคารมีความเสียหายต่ำ แต่เกิด Panic ราคาลงเกิน -10% รอตั้งรับ SIRI, SC, LH และ กลุ่มประกันที่ก าไรจะลดลงเพียง 1 ไตรมาส และเบี้ยประกันในอนาคตจะสูงขึ้น หากหุ้นปรับฐานลึก -15% ขึ้นไป รอตั้งรับ TIPH, BKIH

***b. กลุ่มที่มีผลกระทบระยะสั้นเชิงจิตวิทยา แต่ภาพอุตสาหกรรมมีปัจจัยลบอื่นๆ เน้นSelectiveหุ้นรายตัวในกลุ่ม : บันเทิง ชิ้นส่วนฯ เกษตร-อาหาร พลังงาน ปิโตรเคมี กลุ่มขนส่งทางบวก ขนส่งทางเรือ

***คำแนะนำกลุ่ม b. เน้น Selective หุ้นรายตัวที่แข็งแกร่งในกลุ่ม บันเทิง เลือก PLANB, เกษตร -อาหาร เลือก CPF, ขนส่งทางบก เลือก BTS

***c. กลุ่มที่มีผลกระทบระยะสั้นเชิงจิตวิทยา แต่ราคาน่าจะปรับตัวลงระยะสั้น แต่แนะนำทยอยตั้งรับ เนื่องจากอุตสาหกรรมมีภาพบวก คือ กลุ่มท่องเที่ยว การบิน กลุ่มนิคม กลุ่มธนาคาร (กลุ่มเสี่ยง ผันผวน คือ กลุ่มที่มีสินเชื่อบ้านสูง อาทิ SCB 32% TTB 25% KTB 19% KBANK 17%) กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่ม ร.พ. กลุ่มเช่าซื้อ กลุ่มรับเหมา

***คำแนะนำในกลุ่ม c. สำหรับ กลุ่มท่องเที่ยว เลือก MINT, นิคม เลือก AMATA, กลุ่มธนาคาร เลือก KBANK, กลุ่มโรงไฟฟ้า เลือก GPSC, กลุ่ม ร.พ. เลือก BDMS, BH, กลุ่มเช่าซื้อ เลือก MTC, กลุ่มรับเหมา เลือก STECON

***d. กลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว หรืออาจได้อานิสงส์บวก : กลุ่มจำหน่ายสินค้า+บริการจำเป็น หรือกลุ่มได้ประโยชน์จากการซ่อมแซ่มรอบใหญ่หลังจากนี้ ค้าปลีก (บวกกลุ่มสินค้าจำเป็น และ Home Improvement) กลุ่มสื่อสาร กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มที่ปรึกษางานอาคาร/โครงสร้าง กลุ่มรับเหมาเสาเข็ม

***เซียนหุ้นอีกค่ายโฟกัสไปที่หุ้นอสังหารฯ ชี้ชัดว่าเป็น sentiment เชิงลบต่อความเชื่อมั่นในการซื้อที่อยู่อาศัยที่เป็นอาคารสูง เช่น คอนโดมิเนียม จากความกังวลด้านความปลอดภัยส่งผลให้ผู้บริโภค อาจเปลี่ยนการตัดสินใจไปซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบหรือคอนโดมิเนียมที่เป็นอาคารที่ไม่สูงมาก (low rise building) มากขึ้น รวมถึงอาจทำให้โครงการคอนโดที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างต้องล่าช้าออกไปเพื่อรอการตรวจสอบความปลอดภัย ในขณะที่อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการซ่อมแซมคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวผู้ประกอบการที่เน้นคอนโดแนวสูงมากกว่าที่อยู่อาศัยแนวราบได้แก่ ANAN-ORI -LPN -

***อีกกลุ่มคือ “ประกันภัย” คาดว่าจะได้รับผลกระทบมาก จากภาระการจ่ายสินไหมทดแทนจำนวนมาก จากความเสียหายของสิ่งก่อสร้างและอาคารต่างๆ ที่มีการทำประกันไว้ ซึ่งหลายบริษัทประกันมีการทำ สำหรับการพังถล่มของอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ส่งผลให้เกิดการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจำนวนมาก(วงเงินประกันมูลค่าโครงการอยุ่ที่ 2,136 ล้านบาท) ตามรายงานของในประเทศ มีบริษัทประกัน 4 รายที่ต้องรับผิดชอบ คือ

 1) TIPH (บมจ.ทิพยประกันภัย) 40% โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ PTT 13.46%, KTB 10%

2) BKIH (บมจ.กรุงเทพประกันภัย) 25% โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ BBL 9.99%, BLA 2.01% และตระกูลโสภณพนิช

3) INSURE(บมจ.อินทรประกันภัย) 25% โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี ผ่าน Thai Group Holding 62.55%

4)บริษัทวิริยะประกันภัย 10% ถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง เช่น THRE (3.17%), BDMS (4.27%), SIRI(6.86%), TQM (3.10%), XPG (9.02%), PF (7.5%), BAREIT (1.94%), IIG (4.6%)

***แฟนคลับของ GULF เตรียมตัว!!! จะกลับมาเทรดอีกครั้ง 3 เม.ย.นี้ หลังจากถูกพักการซื้อขาย(SP) ไปเมื่อ 21 มี.ค.-2 เม.ย.ที่ผ่านมา โดย GULFI เป็นชื่อย่อหลักทรัพย์ชั่วคราวของ GULF ที่ใช้ระหว่างช่วงการควบรวมกิจการกับ INTUCH ที่ใช้ในช่วงขึ้นเครื่องหมาย SP .... คาดว่ากลุ่มในกลุ่มนี้จะกลับมาเทรดกันคึกคักอีกครั้ง