Talk of The Town

รวบ 5 หุ้นเหมาะ DCA สำหรับนักลงทุนที่ต้องการออมหุ้น เพื่อสร้างโอกาสฟันผลตอบแทนเด่น


01 เมษายน 2568

มาแล้ว! สำหรับหุ้นที่เหมาะลงทุนแบบ DCA ประจำเดือน โดยนักวิเคราะห์ชู 5 หุ้นเด่น ทั้ง 3BBIF BDMS CPALL GULF และ TTB  ที่เหมาะกับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการออมในหุ้น แถมผลงานมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

รวบ 5 หุ้นเหมาะ DCA_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนแบบ หรือ DCA Dollar Cost Average คือ การลงทุนระยะยาว ด้วย การทยอยลงทุนเป็นงวดๆ ในจำนวนเงิน ที่เท่า ๆ กัน ทุกงวด โดยไม่สนใจราคาหุ้นว่า จะผันผวน ขึ้นหรือลงมากน้อยเพียงใด

โดยการลงทุนด้วยวิธีนี้ จะทำให้นักลงทุนสามารถกำจัดอารมณ์ที่ใช้ในการลงทุน เมื่อราคาหุ้นแกว่งตัวผันผวน และ ยังเป็นการสร้างวินัยการออมที่มีประสิทธิภาพ เหมาะกับบุคคลทั่วไปที่ อาจจะไม่มีเวลาติดตามการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นอย่างใกล้ชิดมาก

ทั้งนี้เลือกหุ้น 5 บริษัท พื้นฐานดีมีสภาพคล่อง ให้คำแนะนำทุก 1 เดือน ยกเว้น มีเหตุการณ์สำคัญกระทบต่อพื้นฐานบริษัท กระจายความเสี่ยงในหลากหลายอุตสาหกรรม เหมาะกับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการออมในหุ้น จัดพอร์ตผสมผสาน (Dividend + Growth) และกระจายน้ำหนักการลงทุนเท่ากันในแต่ละหุ้น

สำหรับหุ้นที่เหมาะลงทุนแบบ DCA ประจำเดือน ประกอบด้วย 3BBIF โดยประเมินว่าหุ้นกลุ่ม IFF & REIT เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการพักเงินเนื่องจากเป็นกลุ่ม Defensive ที่ป้องกันความเสี่ยงจากสงครามการค้าได้ดี และหากอิงสถิติสงครามการค้าในรอบแรก กลุ่ม REIT เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่ปรับขึ้นได้ดีตลอดช่วงที่สงครามการค้ารุนแรงขึ้

BDMS แนวโน้มรายได้ไตรมาส 1/68 คาดเติบโตทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน โดยช่วงเดือน ม.ค.–ก.พ. รายได้จากผู้ป่วยไทยเพิ่มขึ้น 5-6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และผู้ป่วยต่างชาติเติบโต 10-15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้เดือน มี.ค. ผู้ป่วยตะวันออกกลางอาจชะลอลงจากรอมฎอน แต่ 2 เดือนแรกเติบโตถึง 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงคาดว่าแนวโน้มไตรมาส 1/68 ยังเติบโตได้ดี

CPALL แนวโน้มกำไรไตรมาส 1/68 คาดเติบโต จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากนับตั้งแต่ต้นไตรมาส 1/68 ถึงปัจจุบัน SSSG ที่ยังเติบโตได้ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าการเข้าสู่ High Season ของธุรกิจท่องเที่ยวจะเป็นปัจจัยช่วยหนุน Product Mix สินค้าที่มีอัตรากำไรสูง คาดกำไรปี 68 ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท เติบโต 9% จากปีก่อน ขณะที่ PE2568 อยู่ระดับต่ำเพียง 16.2 เท่า

GULF หลังการควบรวมเสร็จสิ้น คาดว่าบริษัทจะเปิดเผยแผนการเติบโตระยะยาว เพราะคาดว่าหลังควบรวมแล้ว NewCo จะมี Net IBD/E ลดลงเหลือเพียง 0.9 เท่า จากระดับ 1.9 เท่าของ GULF เดิม ส่งผลให้มีความสามารถในการกู้ยืมเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับก่อนการควบรวม

และ TTB บริษัทประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนตั้งแต่ปี 68-70 รวม 2.1 หมื่นล้านบาท โดยจะเริ่มดำเนินการในปี 68 วงเงินไม่เกิน 7.0 พันล้านบาท จำนวนหุ้นซื้อคืนไม่เกิน 3,500 ล้านหุ้น หรือ 3.6% ของทุนจดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. - 1 ส.ค. 68

DCA