กระดานข่าว

เซ็นทรัล รีเทล โชว์ศักยภาพความสำเร็จกลยุทธ์ “CRC ReNEW” ปี 67 ช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า 86,612 ตัน


01 เมษายน 2568
นางสาวปิยวรรณ ลีละสมภพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า “ แนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (ESG) ได้กลายเป็นมาตรฐานระดับโลก โดย 85% ของนักลงทุนและผู้ถือหุ้นให้ความสำคัญกับองค์กรที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG มากกว่าความสำเร็จทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว เซ็นทรัล รีเทล จึงเริ่มใช้กลยุทธ์ CRC ‘ReNEW’ ตั้งแต่ปี 2565 เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนครอบคลุมในทุกมิติ พร้อมทั้งผสานเข้ากับการดำเนินธุรกิจอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม โดยในปี 2567 บริษัทได้ดำเนินงานด้าน ESG ที่สร้างผลลัพธ์เชิงบวกอย่างเป็นระบบ จนได้รับการคัดเลือกให้เป็นบริษัทที่มีความเป็นเลิศด้านความยั่งยืน การันตีจากการคว้ารางวัลทั้งในประเทศและระดับสากล พร้อมทั้งยังติดกลุ่มดัชนี DJSI World ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน และ Emerging Markets ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 รวมถึงได้รับการประเมิน S&P Global CSA Score สูงถึง 84 คะแนน อีกทั้งติดอันดับ Top 3 ในหมวด Retailing Industry สะท้อนถึงศักยภาพขององค์กรค้าปลีกและค้าส่งต้นแบบด้านความยั่งยืนของเอเชีย โดยมีผลลัพธ์ความสำเร็จที่โดดเด่นดังนี้

S__13443138.jpg
 
Re: Reduce Greenhouse Gas Emissions เซ็นทรัล รีเทล ให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานหมุนเวียนและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านโครงการสำคัญ ๆ ไม่ว่าจะเป็น
  • การติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาศูนย์การค้า อาคาร และคลังสินค้ากว่า 160 แห่ง ในประเทศไทย เช่น คลังสินค้าไทวัสดุ, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์, ท็อปส์, โก โฮล์เซลล์ และประเทศเวียดนามที่ซูเปอร์มาร์เก็ต มินิ โก! (go!) ลานชี มาร์ท ไฮเปอร์มาร์เก็ต และเหงียนคิม ซึ่งช่วยทดแทนการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ถึง 16% ของพลังงานทั้งหมด ช่วยลดการพึ่งพาพลังงานแบบดั้งเดิม ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า 86,612 ตัน
  • การเลือกใช้รถบรรทุกไฟฟ้าพลังงานสะอาด (EV Truck) 28 คัน และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานสะอาด 48 คัน ในศูนย์กระจายสินค้าของเซ็นทรัล, ท็อปส์, ไทวัสดุ และการจัดส่งสินค้าระยะสั้นของโก โฮล์เซลล์ ทั้งหมดนี้สามารถช่วยลดการใช้น้ำมันดีเซลมากกว่า 661,806 ลิตรต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 1,740 เมตริกตันต่อปี
  • การติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Stations) 63 จุด ทั้งในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม รองรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้พร้อมกัน 795 คัน เพื่อสนับสนุนการใช้ยานยนต์พลังงานสะอาดทั้งในกลุ่มพนักงานและลูกค้า
  • การใช้ตู้แช่ประหยัดพลังงานกว่า 2,163 ตู้ ในร้านค้าของท็อปส์ และโก โฮล์เซลล์ ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้า และยกระดับมาตรฐานการอนุรักษ์พลังงานในธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
 
N: Navigate Environmental Responsibility เน้นการพัฒนาศักยภาพด้านความยั่งยืนของพนักงานและ คู่ค้าในห่วงโซ่อุปทานอย่างต่อเนื่อง ผ่านการดำเนินงานและโครงการดังนี้
  • การดำเนินการจัดโครงการพัฒนาความยั่งยืน (Sustainability Development Program) เพื่อสร้างความตระหนักรู้ด้านความยั่งยืนให้กับพนักงาน โดยในปี 2567 มีพนักงานเข้าร่วมกว่า 400 คน ช่วยเสริมสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานเพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน
  • ประเมินคู่ค้าตามหลักเกณฑ์ ESG อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน มีคู่ค้าที่ผ่านการประเมินแล้วกว่า 1,014 ราย พร้อมกำหนดให้คู่ค้ารายใหม่ทุกรายต้องผ่านการคัดกรองมาตรฐาน ESG 100% เพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคมในห่วงโซ่อุปทาน
 
E: Eco-Friendly Materials ส่งเสริมการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการดำเนินงานในหลายด้าน อาทิ
  • Healthiful ร้านค้าที่ขายสินค้าและอาหารเพื่อสุขภาพที่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันมีสาขากว่า 86 แห่ง ในท็อปส์ทั่วประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ
  • เพิ่มสัดส่วนการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในประเทศไทยธุรกิจในเครือของเซ็นทรัล       รีเทล มีการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมคิดเป็น 16% ของทั้งหมด รวมถึงการใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ง่าย, พลาสติกรีไซเคิลและวัสดุรีไซเคิลในการผลิตบรรจุภัณฑ์
  • ให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุที่ผ่านการรีไซเคิลและได้รับมาตรฐาน เพื่อส่งเสริมธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและลดผลกระทบต่อโลก
 
W: Waste Management Solutions มีการวางรากฐานการบริหารจัดการขยะอย่างเป็นระบบและยั่งยืน ผ่านแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน เช่น
  • ดำเนินโครงการ Reuse และ Recycle ขยะจากการดำเนินงานกว่า 7,649 ตัน เช่น กล่องลังกระดาษและกล่องพลาสติก ช่วยลดปริมาณขยะที่ส่งไปยังหลุมฝังกลบ และเลือกใช้ทรัพยากรในการผลิตบรรจุภัณฑ์ใหม่เท่าที่จำเป็น
  • มีการใช้ตาข่ายคลุมสินค้าแบบใช้ซ้ำ (Reusable Nets) และรถเข็นกระจายสินค้าขนาดใหญ่ (Extra Roll Cages) ในศูนย์กระจายสินค้าของไทวัสดุ ทดแทนฟิล์มยืดแบบใช้ครั้งเดียว ลดการใช้ฟิล์มยืดได้ 11 ตันต่อปี เพิ่มพื้นที่บรรจุสินค้าได้ 2 เท่า
  • มีการใช้กระดาษไดคัทแทนบับเบิ้ลแรปในศูนย์กระจายสินค้าของกลุ่มธุรกิจแฟชั่นภายใต้ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป ช่วยลดพลาสติกห่อสินค้าได้กว่า 600 กิโลกรัม
ทั้งนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังคงเดินหน้าด้วยความมุ่งมั่นในแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เพียงเพื่อการเติบโตขององค์กรเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างแท้จริงให้กับชุมชนและสังคมในระยะยาว โดยมีเป้าหมายสำคัญในการก้าวสู่การเป็นองค์กร Net Zero ภายในปี 2593 พร้อมส่งต่อโลกที่น่าอยู่ยิ่งขึ้นให้กับเจเนอเรชันต่อไปในอนาคต”­­­ นางสาวปิยวรรณ กล่าวสรุป