กระดานข่าว
BTG เปิดตัวโรงงานอาหารสัตว์หนองบุญมาก จ.โคราช ก้าวสู่ Smart Factory โรงงานอัจฉริยะเต็มรูปแบบ
13 มีนาคม 2566
บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ “BTG” บริษัทอาหารชั้นนำระดับสากล (World-Class Branded Food Company) ยกระดับซัพพลายเชนกลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม เปิดตัว ‘โรงงานอาหารสัตว์เบทาโกร หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา’ โรงงานอัจฉริยะเต็มรูปแบบแห่งแรก ที่ขับเคลื่อนเทคโนโลยีกระบวนการผลิตอาหารสัตว์และบริหารทรัพยากรด้วยการเชื่อมต่อ IoT และระบบอัตโนมัติ พร้อมคำนึงถึง ESG เพิ่มกำลังการผลิตอาหารสัตว์กว่า 600,000 ตันต่อปี หรือเพิ่มขึ้น 18% ทำให้เบทาโกรมีกำลังการผลิตรวมแล้วกว่า 4 ล้านตันต่อปี ติดสปีดเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ตอบรับความต้องการอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน

นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า “นโยบายของบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นยกระดับระบบซัพพลายเชนของเบทาโกร ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ภายใต้แนวคิด ‘PROACTIVE SUSTAINABILITY’ เบทาโกรสร้างสรรค์นวัตกรรมแห่งความยั่งยืนให้เกิดขึ้นจริง โดยเดินหน้าลงทุนกว่า 1,400 ล้านบาท นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่มาขับเคลื่อนรากฐานการผลิตก้าวสู่โรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตและการจัดการทรัพยากร ล่าสุดได้เปิดตัวโรงงานอาหารสัตว์เบทาโกร หนองบุญมาก นำร่องแห่งแรกที่เป็นโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) เต็มรูปแบบ และจะเป็นโมเดลต้นแบบการขยายไปสู่โรงงานของเบทาโกรอื่น ๆ ต่อไป
โรงงานอาหารสัตว์เบทาโกร หนองบุญมาก นับว่าเป็นโรงงานขนาดใหญ่อันดับ 3 ของบริษัทฯ ผลิตอาหารสัตว์หลากหลายชนิด อาทิ สุกร ไก่ไข่ ไก่เนื้อ โดยนำเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) และระบบอัตโนมัติมาใช้ภายในโรงงานซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพการผลิตอาหารที่มีความแม่นยำ (Smart Production) ยิ่งขึ้น ปัจจุบันโรงงานอาหารสัตว์เบทาโกร หนองบุญมาก มีอัตราการเดินเครื่องอยู่ที่ 48% ของการผลิตรวม และจะผลิตเต็มกำลัง 100% ภายในสิันปีนี้ ส่งผลให้เบทาโกรมีกำลังการผลิตอาหารสัตว์เพิ่มขึ้นอีกกว่า 600,000 ตันต่อปี หรือเพิ่มขึ้น 18% รวมเป็นกว่า 4 ล้านตันต่อปี เพื่อรองรับตลาดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและ สปป.ลาว อีกทั้งภายในโรงงานยังได้นำระบบบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์มาเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็วตรงเวลา พร้อมช่วยวางแผนการทำงานที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ภายในโรงงานยังได้นำเทคโนโลยีอันทันสมัยมายกระดับจัดการหลากหลายมิติ ได้แก่ ระบบการบริหารจัดการโรงงาน (Smart Dashboard) ระบบการเก็บตัวอย่างและตรวจสอบคุณภาพ (Smart Sampling) ระบบการจัดเก็บวัตถุดิบที่ควบคุมแบบอัตโนมัติ (Smart Silo) รวมถึงระบบการจัดเก็บและลำเลียงวัตถุดิบอัตโนมัติ (Smart Bulk) และการใช้หุ่นยนต์ในการบรรจุและลำเลียง (Auto packing & Robot) โดยการลงทุนโรงงานอาหารสัตว์เบทาโกร หนองบุญมาก จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย ตลอดจนช่วยลดการสูญเสีย ซึ่งเป็นความเสี่ยงในการกระบวนผลิตและระบบขนส่ง ทั้งยังสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันอีกด้วย
เบทาโกร ยังให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน ด้วยการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG (Environment, Social, Governance) ครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล โดยโรงงานอัจฉริยะแห่งนี้ร่วมสร้างรากฐานสังคมเข้มแข็ง ด้วยการสร้างโอกาสให้กับเกษตรกรร่วมเติบโตไปด้วยกัน รวมถึงสร้างงานให้คนในชุมชน ยกระดับทักษะทางด้านเทคโนโลยีให้กับคนในพื้นที่ ทั้งยังส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานสะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ ระบบผลิตไอน้ำแบบประหยัดพลังงาน (Smart Boiler) จากเชื้อเพลิงชีวมวล (Bio-Mass Fuel) การใช้พลังงานทดแทนจากพลังงานแสงอาทิตย์ 20% โดยติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป (Solar Rooftop) ขณะนี้มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2.8 เมกะวัตต์ ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ราว 1,900 ตันต่อปี
“แนวโน้มอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์ในปี 2566 มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย คาดว่าจะเพิ่มเป็น 19.99 ล้านตัน หรือ 4.8% จากปี 2565 ซึ่งอยู่ที่ 19.08 ล้านตัน เนื่องจากมีความต้องการในการผลิตสุกร ไก่เนื้อ และไก่ไข่เพิ่มขึ้น สำหรับการก้าวสู่โรงงานอัจฉริยะด้วย IoT ผสานกับระบบอัตโนมัติที่สมบูรณ์แบบในโรงงานอาหารสัตว์เบทาโกร หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา จะเป็นห่วงโซ่คุณค่าต้นน้ำในด้านฐานการผลิตที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเบทาโกรสู่การเป็น World-Class Branded Food Company ที่เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายวสิษฐ กล่าว

นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า “นโยบายของบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นยกระดับระบบซัพพลายเชนของเบทาโกร ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ภายใต้แนวคิด ‘PROACTIVE SUSTAINABILITY’ เบทาโกรสร้างสรรค์นวัตกรรมแห่งความยั่งยืนให้เกิดขึ้นจริง โดยเดินหน้าลงทุนกว่า 1,400 ล้านบาท นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่มาขับเคลื่อนรากฐานการผลิตก้าวสู่โรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตและการจัดการทรัพยากร ล่าสุดได้เปิดตัวโรงงานอาหารสัตว์เบทาโกร หนองบุญมาก นำร่องแห่งแรกที่เป็นโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) เต็มรูปแบบ และจะเป็นโมเดลต้นแบบการขยายไปสู่โรงงานของเบทาโกรอื่น ๆ ต่อไป
โรงงานอาหารสัตว์เบทาโกร หนองบุญมาก นับว่าเป็นโรงงานขนาดใหญ่อันดับ 3 ของบริษัทฯ ผลิตอาหารสัตว์หลากหลายชนิด อาทิ สุกร ไก่ไข่ ไก่เนื้อ โดยนำเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) และระบบอัตโนมัติมาใช้ภายในโรงงานซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพการผลิตอาหารที่มีความแม่นยำ (Smart Production) ยิ่งขึ้น ปัจจุบันโรงงานอาหารสัตว์เบทาโกร หนองบุญมาก มีอัตราการเดินเครื่องอยู่ที่ 48% ของการผลิตรวม และจะผลิตเต็มกำลัง 100% ภายในสิันปีนี้ ส่งผลให้เบทาโกรมีกำลังการผลิตอาหารสัตว์เพิ่มขึ้นอีกกว่า 600,000 ตันต่อปี หรือเพิ่มขึ้น 18% รวมเป็นกว่า 4 ล้านตันต่อปี เพื่อรองรับตลาดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและ สปป.ลาว อีกทั้งภายในโรงงานยังได้นำระบบบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์มาเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็วตรงเวลา พร้อมช่วยวางแผนการทำงานที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ภายในโรงงานยังได้นำเทคโนโลยีอันทันสมัยมายกระดับจัดการหลากหลายมิติ ได้แก่ ระบบการบริหารจัดการโรงงาน (Smart Dashboard) ระบบการเก็บตัวอย่างและตรวจสอบคุณภาพ (Smart Sampling) ระบบการจัดเก็บวัตถุดิบที่ควบคุมแบบอัตโนมัติ (Smart Silo) รวมถึงระบบการจัดเก็บและลำเลียงวัตถุดิบอัตโนมัติ (Smart Bulk) และการใช้หุ่นยนต์ในการบรรจุและลำเลียง (Auto packing & Robot) โดยการลงทุนโรงงานอาหารสัตว์เบทาโกร หนองบุญมาก จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย ตลอดจนช่วยลดการสูญเสีย ซึ่งเป็นความเสี่ยงในการกระบวนผลิตและระบบขนส่ง ทั้งยังสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันอีกด้วย
เบทาโกร ยังให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน ด้วยการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG (Environment, Social, Governance) ครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล โดยโรงงานอัจฉริยะแห่งนี้ร่วมสร้างรากฐานสังคมเข้มแข็ง ด้วยการสร้างโอกาสให้กับเกษตรกรร่วมเติบโตไปด้วยกัน รวมถึงสร้างงานให้คนในชุมชน ยกระดับทักษะทางด้านเทคโนโลยีให้กับคนในพื้นที่ ทั้งยังส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานสะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ ระบบผลิตไอน้ำแบบประหยัดพลังงาน (Smart Boiler) จากเชื้อเพลิงชีวมวล (Bio-Mass Fuel) การใช้พลังงานทดแทนจากพลังงานแสงอาทิตย์ 20% โดยติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป (Solar Rooftop) ขณะนี้มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2.8 เมกะวัตต์ ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ราว 1,900 ตันต่อปี
“แนวโน้มอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์ในปี 2566 มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย คาดว่าจะเพิ่มเป็น 19.99 ล้านตัน หรือ 4.8% จากปี 2565 ซึ่งอยู่ที่ 19.08 ล้านตัน เนื่องจากมีความต้องการในการผลิตสุกร ไก่เนื้อ และไก่ไข่เพิ่มขึ้น สำหรับการก้าวสู่โรงงานอัจฉริยะด้วย IoT ผสานกับระบบอัตโนมัติที่สมบูรณ์แบบในโรงงานอาหารสัตว์เบทาโกร หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา จะเป็นห่วงโซ่คุณค่าต้นน้ำในด้านฐานการผลิตที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเบทาโกรสู่การเป็น World-Class Branded Food Company ที่เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายวสิษฐ กล่าว
ยอดนิยม

VIH ซื้อหุ้นคืน 26.66 ล้านหุ้น ใช้เงินสดส่วนเกิน ยืนยันไม่เกี่ยวเงินเพิ่มทุน สาเหตุราคาหุ้นไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐาน ตั้งเป้าทำนิวไฮใหม่ปีนี้

13 มีนาคมนี้!!! ผู้ถือหุ้น MC รับเงินปันผลบานฉ่ำ !!!
.jpg)
“นิปปอนเพนต์” ก้าวล้ำวงการสีด้วยพลัง AI! ส่งสุดยอดแพ็กคู่โซลูชัน “น้องนิปปอน” และ “Colour Design”

เบเยอร์ เขย่าวงการธุรกิจสีทาอาคาร สำเร็จเจ้าแรก! ใช้เทคโนโลยีล้ำ AI OCR อ่านบิลเขียนมือได้ รันแคมเปญใหญ่ "ลดเดือดรับ Summer แจกไม่ยั้ง!"
