โบรกฯ คาดกลุ่มนิคมฯ-ชิ้นส่วนฯ วันนี้อาจฟื้นตัวแรง หลัง “ทรัมป์” เลื่อนขึ้นภาษี 90 วัน
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่าจากประเด็นที่รมว. คลังเปิดเผยว่า ข้อมูลที่จะเตรียมไปเจรจากับสหรัฐฯปัจจุบันมีความพร้อมหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ประเมินหากการเจรจาไม่เป็นผล ต้องมีการเตรียมแผนสำรองสำหรับวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงถดถอยรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยมีระดับหนี้สาธารณะต่อ GDP ระดับ 64% เทียบเพดานหนี้ที่ 70% โดยการเพิ่มเพดานหนี้ หากการใช้เงินไปสร้างเสถียรภาพระยะสั้น ตามด้วยลงทุนสร้างอุตสาหกรรม / ธุรกิจใหม่ เพื่อลดผลกระทบวิกฤติครั้งนี้ระยะยาว เราประเมินจะสร้างผลบวก แต่หากใช้ไม่ประสิทธิภาพเพียงพอ อาจจะนำมาสู่ความเสี่ยงได้ โดยเฉพาะ Credit Rating ทำให้ต้นทุนกู้ยืมโดยรวมประเทศสูงขึ้น และกระทบกำไรตลาด
โดยรวมประเมินทางออกไทยต่อผลกระทบมาตรการกีดกันการค้าปัจจุบันยังยืดหยุ่นพอสมควร ประเมินตลาดที่ตอบรับความเสี่ยงการค้าไปแล้ว อาจจะเริ่มให้น้ำหนักด้านบวกอื่นที่อาจเกิดขึ้น ผสาน ระยะสั้นที่คุณ Trump ประกาศระงับการขึ้นภาษี Reciprocal tax เป็นเวลา 90 วันให้กับ 75 ประเทศที่ไม่ตอบโต้
สำหรับเชิงกลยุทธ์ ระยะสั้นประเมินหุ้นที่ถูกกดดันหลักๆ อาทิ หุ้นเกษตร อาหาร ชิ้นส่วน ยานยนต์ และนิคมมีโอกาสฟื้นตัวแรง อย่างไรก็ดี ระยะกลางความไม่แน่นอนที่ยังมีระยะกลางต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหุ้นอิงภายนอก
ส่วนนักลงทุนที่เน้นปลอดภัย ให้มองหุ้น Domestic ที่ Undervalue (CPALL, BJC, HMPRO, ADVANC, GULF, BDMS, MTC) และกรณีเกิดสถานการณ์คลายภาษี แนะนำเพิ่มสถานะกลุ่ม BANK (KBANK), PROP (SIRI, LH), TOURISM (AOT, MINT)