Talk of The Town

3 หุ้นไทยรับปัจจัยบวก หลังศาลฯ มีคำสั่งห้าม “เนสท์เล่” ผลิต และจำหน่าย “เนสกาแฟ” ในไทย


10 เมษายน 2568

3 หุ้นไทยรับปัจจัยบวก_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า จากข่าว Nestle ถูกศาลแพ่งมีนบุรีห้ามผลิต ว่าจ้างผลิต จำหน่าย และนำเข้า กาแฟสำเร็จรูปแบรนด์ Nescafe ในไทย โดยมองเป็น sentiment บวกต่อคู่แข่ง อาทิ CBG SAPPE TACC แต่ผลบวกจริงค่อนข้างจำกัด เพราะสัดส่วนรายได้ไม่เยอะ

โดยหลังจากที่มีข้อพิพาทกับพันธมิตรเดิม QCP ที่ได้ยุติสัญญาร่วมทุน (ถือหุ้นคนละ 50%) เมื่อ 31 ธ.ค.67 ทั้งนี้ Nescafe ถือเป็นผู้นำในตลาดกาแฟสำเร็จรูปในไทย หากพิจารณามูลค่าตลาดกาแฟทั้งประเทศไทยราวปีละ 6 หมื่นลบ. แบ่งเป็น กาแฟในบ้าน 3.3 หมื่นลบ. และกาแฟนอกบ้าน 2.7 หมื่นลบ.

สำหรับตลาดกาแฟในบ้าน แบ่งเป็น 1. กาแฟ 3 in 1 (สัดส่วน 49% ของกาแฟในบ้าน) ซึ่ง Nescafe มีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 มากกว่า 50%

2. กาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม (สัดส่วน 31%) มูลค่าราว 1.4 หมื่นลบ. ผู้นำอันดับ 1 คือ Birdy (52%) รองมาคือ Nescafe (37%) และอันดับ 3 คือ CBG (สัดส่วนราว 2-3%)

3. กาแฟผงสำเร็จรูป (สัดส่วน 14%) Nescafe ก็มีขายสินค้ากลุ่มนี้ ให้ร้านกาแฟต่างๆ หุ้นในตลาดที่มีรายได้ใน segment นี้คือ TACC

4. กาแฟสุขภาพ (6%) อันดับ 1 คือ Naturegift (30%), เพรียว (แบรนด์ของ SAPPE) สัดส่วน 20% และ Nestcafe (10%)

ทั้งนี้เบื้องต้นนักวิเคราะห์ได้ประเมินว่าข่าวนี้เป็น sentiment เชิงบวกต่อบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีสัดส่วนรายได้มาจากกาแฟ อาทิ CBG (สัดส่วนรายได้ราว 2%), SAPPE และ TACC

แต่อย่างไรก็ตามผลกระทบแท้จริงโดยรวมอาจไม่มาก เพราะสัดส่วนรายได้กาแฟของแต่ละบริษัทไม่เยอะ และปัจจุบัน Nestle อยู่ระหว่างชี้แจงชั้นศาล โดยระบุว่าจะกลับมาให้เร็วที่สุด ซึ่งต้องติดตามต่อไป