รายงานพิเศษ: MENA ฟอร์มแจ่ม ลุยงานรัฐ-ขยายกองรถ ดันรายได้ปี 68 โต 10%
จับตาผลงาน บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) ปี 68 ที่จะเติบโตได้อย่างโดดเด่น ตามการลงทุนของภาครัฐ การขยายกองรถและการขยายสาขาของกลุ่ม CJ ซึ่งจะผลักดันรายได้ขยายตัว 10% ขณะที่โบรกเกอร์ประสานเสียงแนะนำ “ซื้อ”
บล.โกลเบล็ก ออกบทวิเคราะห์หุ้น บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) โดยระบุว่า ผลประกอบการ 4Q67 มีรายได้เท่ากับ 224 ล้านบาท เติบโต 5%QoQ และ 13%YoY โดยเติบโตตามการเพิ่มขึ้นของ Utilization rate จากรถ Mixer ซึ่งเป็นรถที่ทำการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จให้แก่ลูกค้า และรายได้ค่าขนส่งรถ Trailer มีลักษณะเป็นหัวลาก โดยสามารถเปลี่ยนหางตามการใช้งาน
ด้านอัตรากำไรขั้นต้นทำได้ที่ระดับ 16.5% ทรงตัว QoQ และ YoY ในส่วนของส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม TDM อยู่ที่ 9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% QoQ และ 35%YoY ตามปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาของกลุ่ม CJ ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 4Q67 เท่ากับ 22 ล้านบาท เติบโต 10%QoQ และ 20%YoY ทั้งนี้บริษัทมีกำไรทั้งปี 67 อยู่ที่ 67 ล้านบาท ลดลง 7%YoY
ทั้งนี้เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการปี 68 โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ เติบโต 10% จากแรงหนุนของงานภาครัฐ เช่น งานรถไฟฟ้าสายสีส้ม และสีม่วงใต้ , งานรถไฟรางคู่ เด่นชัย เชียงราย เชียงของ เป็นต้น ขณะที่ TDM ยังเติบโตได้ดีตามการ ขยายสาขาของกลุ่ม CJ ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 68 ที่ 80 ล้านบาทเพิ่มขึ้น +20%YoY คงคำแนะนำ “ซื้อ”
ขณะที่บล.ดาโอ ออกบทวิเคราะห์หลังจากงาน SET Opportunity Day เกี่ยวกับ MENA โดยคาดรายได้ปี 2025E เติบโตราว 10% YoY จากงานภาครัฐที่มีออกมามากขึ้น เห็นจาก
- สัญญาณที่ดีตั้งแต่ 2H24 และมีโครงการหลักช่วยหนุน เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้ม, งานการไฟฟ้าบางละมุง, รถไฟรางคู่ เด่นชัย เชียงราย เชียงของ เป็นต้น
- การขยายกองรถในปี 2025E ทำอย่างระมัดระวังตั้งเป้าเพิ่ม Trailer และ New fleet trailer เพิ่ม 10 คัน จากสิ้นปี 2024 ที่มีกองรถรวม 707 คัน ปี 2025E เน้นการ utilize กองรถที่มีเป็นหลัก
- TDM ตั้งเป้ารายได้ในปี 2025E ในกรอบ 1.5-1.6 พันล้านบาท (จาก 1.3 พันล้านบาทในปี 2024) ตามการขยายตัวของ CJ และธุรกิจในเครือ กองรถคาดเพิ่มขึ้น 100-150 คัน และมีสัดส่วนกองรถเป็นของตัวเองที่ 60-70% จากเดิม 35%
ทั้งนี้คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025E คาดเพิ่มขึ้นจากโอกาสการรับงานเพิ่มขึ้น เรามีมุมมอง เป็นกลางจากงาน SET Opportunity Day พัฒนาการของธุรกิจยังอยู่ในกรอบที่ประเมิน ในขณะเดียวกันเป้ารายได้ปี 2025E ของบริษัทยังคง in line กับประมาณการของเราเติบโตราว 10% หนุนโดยงานภาครัฐที่มีแนวโน้มออกมามากขึ้นในปี 2025E เบื้องต้นเรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2025E ที่ 79 ล้าบาท (+20% YoY)
ส่วนราคาเป้าหมายจะอยู่ที่ 1.11 อิง PER 13x เทียบเท่า PEG 1.0x โอยอิงอัตราการเติบโตปี 2024-26E CAGR ที่ +13% ทั้งนี้ key catalyst คือการขยายตัวของเศรษฐกิจ ในขณะที่ความเสี่ยงคือความผันผวนของราคาน้ำมันและการปรับขึ้นค่าแรง แต่ประเมินจะเป็นเพียง short term impact เพราะสามารถผลักต้นทุนดังกล่าวไปให้ลูกค้าได้