เปิดมุมมองโบรกฯ กลุ่มไหนได้ประโยชน์ เมื่อ “ทรัมป์” ชะลอเก็บภาษีชั่วคราว
เรียกได้ว่าข่าวความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ที่ได้แสดงท่าทีถึงการตอบโต้ทางการค้า ด้วยออกมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) กับประเทศคู่ค้า ได้ส่งผลให้ตลาดทุนและเศรษฐกิจโลกปั่นป่วนเป็นระยะเวลาหนึ่ง หลัง “ทรัมป์” ได้ระงับการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวเป็นเวลา 90 วัน มีผลทันที
โดยปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ จะมีผลต่อตลาดหุ้นไทยและอุตสาหกรรมธุรกิจไทยมากน้อยเพียงใด ในวันนี้ทางสำนักข่าวShare2Trade จึงได้ทำการหยิบยกมุมมองการลงทุนที่น่าสนใจผ่านนักวิเคราะห์มานำเสนอให้แก่ผู้อ่านและนักลงทุนกัน
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองว่า กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์คาดว่าจะฟื้นตัวแรง หลังทรัมป์ เลื่อนการเก็บภาษี 90วัน โดยจะเก็บ 10% กับประเทศที่ไม่ได้ตอบโต้นโยบายทางภาษี รวมประเทศไทยด้วย ระดับ10% ต่ำกว่าระดับ 36% อย่างมีนัยสำคัญและเป็นระดับทีผู้ประกอบการสามารถจะผนักภาระไปให้ลูกค้าได้ไม่ยาก
พร้อมกันนี้ คาดหุ้นมีรอบ Technical Rebound ยกกลุ่ม ราคาปัจจุบัน ชอบ HANA KCE CCET ตามลำดับ ส่วน DELTA คาดว่าจะฟื้นตัวเช่นกัน แต่มูลค่าหุ้นที่สูงทำให้ชอบน้อยที่สุดในกลุ่ม รอบการรีบาวด์คาดว่าเป็นรอบระยะสั้น สงครามการค้ายังมีความไม่แน่นอนสูง อาจกลับไปกลับมาได้ และผลกระทบของความไม่ชัดเจนจะทำให้ลูกค้าสั่งซื้อเท่าที่จำเป็นทั่วโลก ทำให้โดยภาพรวมกลุ่มดีขึ้นกว่าถูกเก็บภาษีจำนวนมากโดยตรง แต่ก็ยังอยู่ในอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวช้า
ถัดมากลุ่มไอทีและแกดเจ็ต คาดว่าจะฟื้นตัวทั้ง SYNEX ADVICE SIS COM7 ซึ่งก่อนหน้านี้ตลาดกังวลเกี่ยวกับราคาสินค้าที่จะถูกผลักดันให้สูงขึ้นจากสงครามการค้า โดยเฉพาะสินค้ากลุ่ม APPLE ทำให้กำลังซื้อในตลาดมีโอกาสลดลง อย่างไรก็ดีการเลื่อนการเก็บภาษีออกไป 90 วัน และจะเก็บที่เพียง 10% ไปก่อน ทำให้ตลาดมีความหวังว่าการเก็บภาษีสุดท้ายจะไม่รุนแรงมากนัก และน่าจะมีแรงเก็งกำไรกลับมาในช่วงสั้น
ต่อมาที่กลุ่มเครื่องดื่มส่งออกคาดราคาหุ้นฟื้นตัวแรงทั้ง PLUS, SAPPE, CHAO ขณะที่ COCOCO อาจฟื้นตัวได้จำกัดมากกว่า เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่มาจากจีน ที่สงครามทางการค้ายังมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี การเลื่อนการเก็บภาษีออกไป 90 วัน และการเก็บเพียง 10% ทำให้ตลาดมองว่าการเก็บภาษีในที่สุดอาจไม่รุนแรงเท่าที่เคยมองไว้ก่อนหน้า ส่งผลให้ราคาหุ้นอาจมีแรงเก็งกำไรในระยะสั้น
ขณะที่กลุ่มอาหารและเกษตร หุ้นกลุ่มส่งออกอาหารและสินค้าเกษตร อาทิ ITC, TU, STA, TEGH คาดฟื้นตัวจากราคาที่ปรับลงมาเยอะในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนยังสูงและดีมานด์ของลูกค้าต่างประเทศยังอยู่ในโหมด Wait and See มองเป็นเพียงจังหวะในการเก็งกำไรระยะสั้น และระยะยาวยังต้องติดตามปัจจัยด้านเศรษฐกิจ และคำสั่งซื้อของลูกค้าที่ยังผันผวน
และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมคาด AMATA และ WHA ฟื้นตัวแรง แรงกดดันด้านภาษีที่ทำให้ตลาดกังวลเรื่องการย้ายฐานการผลิตลดลงชั่วคราว เนื่องจากหุ้นลงมาลึก โอกาสเกิด Technical Rebound สูง อย่างไรก็ดี มองว่าการที่มาตรการภาษียังไม่ชัดเจนในท้ายที่สุด ยากที่ลูกค้าใหม่จะเลือกลงทุนโครงการขนาดใหญ่ในช่วง 2-3 เดือนจากนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่น่าจะรอความชัดเจนไปก่อน ดังนั้นการ รีบาวด์อาจจะแรง แต่แนวโน้มระยะถัดไปยังต้องจับตา
กลุ่มยานยนต์ คาดว่าราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวในระยะสั้น จากปัจจัยบวกของการเลื่อนการจัดเก็บภาษีออกไปอีก 90 วัน อย่างไรก็ตามสถานการณ์สงครามการค้ายังคงมีความไม่แน่นอนสูง และมีโอกาสเปลี่ยนแปลงไปมาได้ตลอดเวลา ขณะที่ผลกระทบจากความไม่ชัดเจนดังกล่าว อาจทำให้ลูกค้าทั่วโลกยังคงชะลอคำสั่งซื้อและสั่งซื้อเฉพาะในส่วนที่จำเป็นเท่านั้น
ประเด็นที่ต้องติดตามคือ การเจรจาระหว่างไทย-สหรัฐฯ เพื่อที่จะลดผลกระทบต่อนโยบายภาษีเท่าเทียม ยังคงน้ำหนักการลงทุน “น้อยกว่าตลาด” แม้รัฐบาลทรัมป์ จะเลื่อนเก็บภาษี แต่ก็ยังเป็นปัจจัยเสี่ยง ที่ถือเป็นความเสี่ยงดาวน์ไซด์ระยะสั้น ราคามีโอกาสฟื้นตัว คาด AH SAT ฟื้นตัววันนี้
กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี คาดทำให้หุ้นกลุ่ม Commodities Play ฟื้นตัวได้ดีในวันนี้ เนื่องจากการระงับเก็บภาษีจะช่วยลดแรงกดดันต่อการเติบโตเศรษฐกิจและอุปสงค์สินค้า Commodities อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสงครามการค้ายังมีโอกาสผันผวนได้ในอนาคต และการระงับขึ้นภาษี Reciprocal Tariff 90 วันไม่ได้รวมประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมัน – ปิโตรเคมีรายใหญ่ของโลก ดังนั้น มองเป็นการรีบาวด์ระยะสั้น หุ้นที่ปรับลงแรงก่อนหน้า เช่น PTTEP SPRC PTTGC
กลุ่มค้าปลีก คาดหุ้นในกลุ่มฟื้นตัวตามตลาด การเลื่อนเก็บภาษีเป็นบวกต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค อีกทั้งการมีธุรกิจในเวียดนามซึ่งถูกเก็บภาษีสูง 46% เป็นอีกปัจจัยเฉพาะตัวกดดันหุ้นปรับตัวลงมาในช่วงก่อนหน้า อาจเห็นการฟื้นตัวของ CRC (สัดส่วนรายได้จากเวียดนาม 20%) และ BJC (สัดส่วนรายได้จากเวียดนาม 9%) อย่างไรก็ตาม การขึ้นภาษีจีนยังคงอยู่ อาจเป็น แรงกดดันสำหรับกลุ่มที่สัดส่วนการขายเหล็ก DOHOME (สัดส่วนยอดขายเหล็ก30%) GLOBAL (สัดส่วนยอดขายเหล็ก 15%)
กลุ่มท่องเที่ยว คาดราคาหุ้นฟื้นตัว การเลื่อนเก็บภาษีของสหรัฐฯ กับทั่วโลกคาดหนุนให้ดีมานด์การท่องเที่ยวฟื้นตัวได้ดีกว่า เน้นเก็งกำไรผู้ประกอบการที่ไม่ได้มีการพึ่งจีน และมูลค่าหุ้นอยู่ในโซนล่างสูงเช่น MINT BA CENTEL SHR