จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : SA รับผลบวก รัฐลดภาษีโอน-จำนอง หวังช่วยหนุนยอดขาย เดินหน้านโยบายรักษ์สิ่งแวดล้อม


16 เมษายน 2568

“อสังหาริมทรัพย์” เป็นธุรกิจที่มีความสำคัญต่อการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องกับการสร้างบ้านใหม่ ครม.จึงมีมติ ลดค่าโอน-จดจำนองบ้าน-คอนโดไม่เกิน 7 ล้านจนถึง 30 มิ.ย.69 ส่งผลดีต่อธุรกิจ บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยเพื่อจำหน่าย ทั้งประเภทโครงการคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร ทาวน์โฮม และโฮมออฟฟิศ

SA_รายงานพิเศษ S2T (เว็บ) copy_0.jpg

จากการเปิดเผยของนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่ระบุว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อบรรเทาปัญหาอุปทานคงค้างสูง ได้แก่

  1. ลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์ เหลือ 0.01% จากปกติ 2%

  2. ลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ อันเนื่องมาจากการจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวในคราวเดียวกัน เหลือ 0.01% จากปกติ 1% สำหรับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ดังนี้

          - อาคารที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด หรือบ้านแถว หรืออาคารพาณิชย์ หรือที่ดินพร้อมอาคารดังกล่าว

          - ห้องชุดที่จดทะเบียนอาคารชุด โดยมีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 7 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 7 ล้านบาท ต่อสัญญา โดยไม่รวมถึงกรณีการขายเฉพาะส่วน

“กระทรวงการคลัง ต้องการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์โดยบรรเทาปัญหาอุปทานคงค้างที่อยู่ในระดับสูง จึงกำหนดระยะเวลามาตรการนี้ ให้สอดคล้องกับมาตรการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV โดยให้มาตรการนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่กฎหมายได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาถึงวันที่ 30 มิ.ย.69 และจากข้อมูลในอดีต เมื่อ 2 มาตรการนี้ทำงานควบคู่กัน ในช่วงเวลาเดียวกัน จะส่งผลบวกต่อภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างมาก"

การประกาศมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล  ส่งผลดีต่อธุรกิจของ บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยเพื่อจำหน่าย ทั้งประเภทโครงการคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร ทาวน์โฮม และโฮมออฟฟิศ และให้บริการบริหารงานนิติบุคคลให้กับโครงการต่างๆ ของบริษัท

โดยปีนี้บริษัทได้วางกลยุทธ์เพิ่มโครงการในรูปแบบ Mixed Use เจาะกลุ่มนักลงทุนและผู้อยู่อาศัยรุ่นใหม่ พร้อมตั้งเป้าการเติบโตเพิ่มขึ้นของรายได้อยู่ที่ประมาณ 10-15% จากปีก่อน สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยประเมินจากยอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาท คาดทยอยรับรู้ในปี 2568 กว่า 2,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกันด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาซื้อทรัพย์สิน SA ได้ร่วมมือกับ บริษัท ฤทธา จำกัด  เปิดตัวโครงการ Zero Construction Wastes and Upcycling Products โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและพัฒนากระบวนการจัดการวัสดุเหลือใช้จากการก่อสร้างอย่างครบวงจร และมุ่งมั่นที่จะลดปริมาณขยะจากการก่อสร้าง และนำวัสดุเหลือใช้มาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของไซมิส แอสเสท ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในอุตสาหกรรมก่อสร้างในอนาคต

SA