เทียบผลตอบแทน ทองคำ กับ ศก.ถดถอย เห็นแล้วอึ้ง! สูงลิ่ว 69% ช่วงวิกฤติซับไพรม์
ราคาทองคำยังคงทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์การต่อเนื่อง จากความกังวลเศรษฐกิจถดถอยหลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ขึ้นกำแพงภาษี สร้างความเสียหายทั่วโลก
จากข้อมูลสถิติเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย กับราคาทอง ของ "ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส" ย้อนรอย 7 วิกฤติเศรษฐกิจโลก ใช้เวลายาวนานแค่ไหนในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจถดถอย และผลตอบแทนจากการลงทุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) อยู่ในระดับมากน้อยเพียงใด
เริ่มตั้งแต่ปี 1973 วิกฤติน้ำมัน ซึ่งในรอบนั้นเศรษฐกิจถดถอยกินเวลายาวนาน 16 เดือน ผลตอบแทนทองคำ +39% ปี 1980 วิกฤติหนี้สาธารณะในละตินอเมริกา เศรษฐกิจถดถอย 6 เดือน ผลตอบแทน ทองคำ +71%
ปี 1981 วิกฤตการณ์โปแลนด์ เศรษฐกิจถดถอย 16 เดือน ผลตอบแทนทองคำ -14%
ปี 1990 วิกฤติราคาน้ำมัน เศรษฐกิจถดถอย 8 เดือน ผลตอบแทนทองคำ -14%
ปี 2001 วิกฤติ Dot-com Bubble เศรษฐกิจถดถอย 8 เดือน ผลตอบแทนทองคำ +19%
ปี 2008 วิกฤติ Subprime เศษฐกิจถดถอย 18 เดือน ผลตอบแทนทองคำ +69%
ปี 2020 วิกฤติ โควิด-19 เศรษฐกิจถดถอย 2 เดือน ผลตอบแทนทองคำ +24%
โดยเฉลี่ยภาวะเศรษฐกิจถดถอยในแต่ละครั้ง จะกินเวลายาวนานประมาณ 11 เดือน ผลตอบแทนทองคำเฉลี่ยอยู่ที่ 28% ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส ประเมินว่า หลังทองทะลุ 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ มีโอกาสที่จะเห็นราคาทองทะลุ 3,500 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะที่ โกลด์แมน แซคส์ มองว่า ราคาทองคำอาจถึงประมาณ 4500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภายในสิ้นปี 2568สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทองวันนี้ (17 เม.ย.68) เวลา 09:13 น. (ครั้งที่ 1) เพิ่มขึ้น 500 บาท ทองคำแท่งรับซื้อคืน 52,350.00 บาท ขายออก 52,450.00 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อคืน 51,407.56 บาท 53,250.00 ขายออก
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี-17 เม.ย.68 ราคาทองคำเพิ่มขึ้น 10,050 บาท โดยราคาทองคำแท่งขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดใหม่ที่ 52,000 บาท/บาททองคำ เทียบกับปี 2567 ทั้งปีเพิ่มขึ้น 8,750 บาท/บาททองคำ