ใกล้เข้าสู่ช่วงประกาศงบบริษัทจดทะเบียนกันแล้ว! โบรกคาดหุ้นในกลุ่ม ปตท. รอดแค่ 2 บริษัท ที่จะมีกำไรเติบโต คือ GPSC และ OR ส่วนที่เหลือของกลุ่มปตท. ยังสาหัส!
โดย PTT นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/68 จะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่คาดจะสามารถฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน เพราะขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจำนวนมากไม่เกิดขึ้น, ค่าใช้จ่ายลดลงตามฤดูกาล, ค่าใช้จ่ายพิเศษของบริษัทลูกลดลง ซึ่งน่าจะเพียงพอชดเชยผลกระทบจากการชะลอตัวของค่าการกลั่น, ต้นทุนน้ำมันสูงขึ้น , Spread ปิโตรเคมีอยู่ระดับต่ำได้
โดย 2568 คาดผลประกอบการจะสามารถรักษาเสถียรภาพ เติบโตเล็กน้อย คงประมาณการกำไรสุทธิที่ 9.3 หมื่นล้านบาท เติบโต 3% จากปีก่อน
ขณะที่ PTTEP นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/68 มีกำไรสุทธิ 1.7 หมื่นล้านบาท ลดลง 9% จากไตรมาสก่อน และลดลง 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือว่าสอดคล้องกับมุมมองก่อนหน้าของฝ่ายวิจัย
ภาพรวมผลประกอบการจะลดลง จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก Margin ถูกกดดันด้วยต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นสวนทางการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบดูไบ ส่วนเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน คาดชะลอตัว จากปริมาณขายลดลง 5% จากไตรมาสก่อน เพราะเป็นช่วงปิดซ่อมบำรุงแหล่งปิโตรเลียมบงกช และรอบการขนส่งน้ำมันดิบของโครงการ Algeria และ Oman นอกจากนี้ คาดต้นทุนผลิตจะเพิ่มขึ้น 2% จากค่าเสื่อมราคา และการตัดจำหน่ายหลุมสำรวจ
ด้าน PTTGC นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) มองว่า มีแนวโน้มจะรายงานขาดทนหลักอีกครั้งในไตรมาส 1/68 จากค่าการกลั่นและส่วนต่างปิโตรเคมีที่ลดลง แต่คาดว่าจะขาดทุนลดลง เล็กน้อยจากไตรมาสก่อนคาการกลั่นที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากสัดส่วนการผลิตผลิตภัณฑ์ กลับสู่ระดับปกติหลังการปิดซ่อมบำรุงโรงกลนในไตรมาส 4/67
ส่วน TOP นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองแนวโน้มไตรมาส 1/68 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และไม่เด่นเมื่อเทียบไตรมาสก่อน ตามทิศทาง Spread และ Crude Premium
ขณะที่ IRPC นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) คาดว่า IRPC จะยังคงรายงานขาดทุนหลักในไตรมาส 1/68 คาดขาดทุนสุทธิจะเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และพลิกกลับจากไตรมาสก่อน เนื่องจากค่าการกลั่นที่ลดลง
ด้าน GPSC นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) คาดกำไรปกติไตรมาส 1/68 เติบโตทั้งจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการเติบโตจากไตรมาสก่อน แม้สเปรด SPP ลดลง แต่ถูกชดเชยด้วยค่าซ่อมบารุงและ OPEX ลดลงตามฤดูกาลและเก็คโค่-วันขาดทุนลดลงตามการหยุดเดินเครื่องตั้งแต่ 20 ธ.ค.
ขณะที่เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากต้นทุนวัตถุดิบทั้งก๊าซและถ่านหินลดลงมาก แต่ค่าไฟฟ้าลดลงด้วยอัตราต่ำกว่า ทำให้มาร์จิ้นเพิ่มขึ้น รวมถึงคาดส่วนแบ่งกำไรไซยะบุรีเพิ่มขึ้นจากฐานต่ำ
สุดท้าย OR นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) คาดว่ากำไรไตรมาส 1/2568 จะเพิ่มขึ้น โดยการเพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากปริมาณการขายน้ำมันที่คาดเพิ่มขึ้น ขณะที่การเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนคาดว่าจะมาจาก ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ลดลงจากการไม่มีค่าใช้จ่ายด้อยค่า และค่าใช้จ่ายด้านพนักงานที่ลดลง และอัตรากำไรจากน้ำมันที่สูงขึ้นจากกำไรสต็อกน้ำมัน
แม้จะเห็นว่า ค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันโดยเฉลี่ยของ EPPO ลดลง 0.02 บาท/ลิตร แต่คาดว่าจะถูกชดเชยทั้งหมดได้จากกำไรสต็อกน้ำมันที่คาดการณ์ไว้ 760 ล้านบาท หรือ 0.10 บาท/ลิตร