รายงานพิเศษ : SFLEX เปิดทางร่วมทุนพันธมิตร สร้างศักยภาพเสริมความแข็งแกร่ง โบรกฯ คาดกำไรปี 68 ทำนิวไฮต่อเนื่อง
บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) เปิดทางจับมือพันธมิตรทางธุรกิจ สร้างศักยภาพการเติบโต เสริมความแข็งแกร่งและโอกาสในการเติบโต ด้านบล.ดาโอ แนะนำ “ซื้อ” เชื่อธุรกิจปี 2025E สดใสดต่อเนื่อง
ดร.สมโภชน์ วัลยะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) ผู้ผลิต และจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนชั้นนำในประเทศ ระบุแผนการดำเนินธุรกิจในปี2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต10%จากปีก่อน โดยคาดว่า จะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภค-บริโภค ซึ่งส่งผลให้ความต้องการบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้น
รวมถึงสามารถรับรู้ผลงานเต็มปีจากการลงทุนในStarprint Vietnam JSCที่ประเทศเวียดนาม และบริษัท สตาร์ยูเนี่ยน แพคเกจจิ้ง จำกัด ซึ่งจะช่วยเสริมฐานกำไรของบริษัทเติบโตแข็งแกร่งและมอบผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว
ทั้งนี้ บริษัทฯมุ่งมั่นพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลธุรกิจต้นน้ำ หลายประเภทเพื่อสามารถควบคุมกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งให้ความสำคัญทั้งด้านการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี รวมถึงStrategic Partner ซึ่งอาจนำไปสู่การร่วมทุน (Joint Venture) เพื่อเสริมศักยภาพทางธุรกิจ รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน (Sustainability)และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ สร้างโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
ขณะที่ บล.ดาโอ ออกบทวิเคราะห์โดยระบุว่า คงแนะนำ “ซื้อ” และมองธุรกิจปี 2025E สดใสดต่อเนื่อง ซึ่งจากการ update กับบริษัท มีมุมมองเป็นบวกตามเดิม จาก
1) SFLEX ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2025E เติบโต +10% YoY (เราประเมินรายได้โต+8% YoY) โดยจะเป็นการเติบโตจากคำสั่งซื้อของลูกค้าเดิมราว 5%, ลูกค้าเดิมมีการเปลี่ยนจากซองเดิมเป็นซองที่มีฝาเทริน เปิด-ปิด ได้ (spout) ราว 2% และจะมาจากลูกค้าใหม่ราว 3% ขณะที่หากรวมรายได้จาก Star Union ที่จะเริ่มมีรายได้ใน 3Q25E จะทำให้รายได้ปี 2025E จะเติบโตดีขึ้นเป็น+15% YoY,
2) GPM จะยังดีขึ้นจากปี 2024 ที่ 24.7% (เราประเมิน GPM ปี 2025E ที่ 25.1%) จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น และแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบที่จะยังทรงตัวต่ำ,
3) SPV (JV) (ดำเนินธุรกิจผลิตงานพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษคุณภาพสูงที่เวียดนาม) จะเติบโตดีขึ้นได้ราว 20% จากการขยายฐานลูกค้าเดิมและใหม่ รวมถึงยังมีแผนที่จะขยายทำ flexible packaging ในอนาคต,
4) Star Union (ปัจจุบันเป็น JV แต่อาจเปลี่ยนเป็นบริษัทย่อยในอนาคต) ที่ร่วมทุนกับ TU ปัจจุบันติดตั้ง เครื่องจักรแล้ว คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายใน 2Q-3Q25E โดยตั้งเป้าจะมีรายได้ ปี 2025E ที่ 100 ล้านบาท และปี 2026E จะผลิตได้เต็มปีและมีรายได้เพิ่มเป็น 240 ล้านบาท
ทั้งนี้ บล.ดาโอ ยังคงประเมินกำไรปี 2025E เติบโต ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง และกำไรจะโต YoY ได้ทุกไตรมาส เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025E ที่ 306 ล้านบาท +9% YoY ยังคงเติบโตได้ดีจากฐานสูงในปีก่อน จาก
1) เราประเมินรายได้ที่ 2.0 พันล้านบาท +8% YoY ซึ่งจะดีขึ้นทั้งจากธุรกิจเดิม โดยจะรับรู้รายได้เต็มที่จากการขยายเครื่องจักรทำฝาเทริน เปิด-ปิด ได้ (spout) ในปี 2024 จำนวน 5 เครื่อง ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 17 เครื่อง และจะได้อานิสงส์จากลูกค้ามีการขยายกำลังการผลิต ทำให้มีคำสั่งซื้อซองบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้น,
2) GPM จะยังดีขึ้นเป็น 25.1% จากปี 2024 ที่ 24.7%,
3) ประเมินส่วนแบ่งกำไร SPV ที่เวียดนาม จะเพิ่มเป็น 30 ล้านบาท +26% YoY ส่วน Star Union จะยังมีกำไรน้อย เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มผลิตรายได้จะยังไม่มาก
ทั้งนี้เรายังประเมินกำไรปี 2025E จะยังคงเติบโต YoY ได้ทุกไตรมาส หลังจาก 4Q24 กำไรเติบโต YoY ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 9 แล้ว ยังคงราคาเป้าหมายที่ 4.80 บาท อิง 2025E PER ที่ 13 เท่า (-0.75SD below 5-yr avg. PER โดยไม่รวมปี 2022 ที่กำไรต่ำกว่าปกติ) โดยมี catalyst จากกำไรปี 2025E-26E ที่โตดีต่อเนื่อง ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบฟิลม์ยังมีแนวโน้มทรงตัวต่อตามสินค้าเคมีภัณฑ์