Talk of The Town

CPF กำไรปี 68 เพิ่มอีก 1.3 พันลบ. หลังทุ่มงบ 1.1 พันล้านดอลลาร์ ฮุบกิจการฟาร์มหมูไก่ในเวียดนาม-จีน


22 เมษายน 2568

CPF ประกาศเข้าซื้อเงินลงทุนใน C.P. Pokphand Co., Ltd (CPP) จำนวน 6,017,959,308 หุ้น (คิดเป็น 23.8% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด) มูลค่ารวม 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก ITOUCHU Corporation ส่งผลให้การถือหุ้นของ CPF ใน CPP เพิ่มเป็น 100% โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 2 ประการคือ 1. เพิ่มการรับรู้กำไรสุทธิและ 2. เพิ่มมีความคล่องตัวในการบริหารจัดการ และสามารถดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

CPF กำไรปี 68 เพิ่มอีก 1.3 พันลบ._S2T (เว็บ)_0.jpg

โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองว่า 
CPP ดำเนินธุรกิจฟาร์มหมูและไก่ในเวียดนาม และฟาร์มไก่ในจีน และถือหุ้น CTI (ธุรกิจฟาร์มหมูในจีน) โดยในปี 2567 CPF รับรู้กำไรสุทธิจาก CPP ราว 7,800 ล้านบาท ภายหลังดีลดังกล่าว คาด CPF จะมีกำไรส่วนเพิ่มในปี 2568 ที่ราว 500 -1,300 ล้านบาท เป็นอัพไซด์ต่อประมาณการราว 2 - 6% บนสมมติฐานของบริษัทแบบ Conservative ที่จะรับรู้กำไรเพิ่มขึ้น 30 -40% และ Financial Cost ที่ 5.0% สูงกว่าระดับปัจจุบันที่ 4.3% คาดธุรกรรมดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/68

นอกจากนี้ CPF จะมีสัดส่วนการลงทุนในบริษัท CTI เพิ่มเป็น 35% จากปัจจุบันที่ 26.7% ทำให้มีโอกาสจะรับรู้ผลขาดทุนของธุรกิจหมูในจีนเข้ามามากขึ้นบางส่วน (รวมในสมมติฐานกำไรส่วนเพิ่มแล้ว)

บริษัทจะ Financing ดีลดังกล่าวผ่านการกู้ยืมจากธนาคาร ประเมินหลังการเข้าซื้อกิจการจะทำให้ Net D/E ของ CPF สิ้นปี 2568 จะปรับขึ้นเป็น 1.7 เท่าจากปัจจุบันที่ 1.6 เท่า ยังต่ำกว่า Debt Covenant ที่ 2.0 เท่า ทำให้บริษัทจะไม่มีปัญหาด้านสภาพคล่องและฐานะการเงิน

นอกจากนี้มีโอกาสที่ Net DE จะลดลงต่ำกว่าประมาณการ จากแนวโน้มผลประกอบการธุรกิจในเวียดนามที่ดีกว่าคาดตามราคาหมูที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ที่ 68,000 ดองต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ทั้งนี้ ในระยะกลาง - ยาว บริษัทมีแผนในการนำ CP Vietnam (สัดส่วน 82% ของรายได้ CPP) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศเวียดนาม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรอรัฐบาลเวียดนามอนุมัติ IPO คาดจะมีความชัดเจนอย่างเร็วช่วงปลายปี2568 – ต้นปี 2569 จะเป็นอัพไซด์จากการปลดล็อกมูลค่าของธุรกิจ และคาดจะนำเงินบางส่วนชำระคืนหนี้ธนาคารจากดีลดังกล่าว ช่วยลดดอกเบี้ยจ่าย

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/68 คาดทำระดับสูงสุดในรอบ 16 ไตรมาส และไตรมาส 2/68 คาดจะเติบโตต่อทั้งไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันจากราคาหมูไทย และเวียดนามที่ปรับขึ้นต่อ ขณะที่ราคาต้นทุนวัตถุดิบการเลี้ยง โดยเฉพาะราคากากถั่วเหลืองปรับลดลง

นอกจากนี้ สมมติฐานกำไรส่วนเพิ่มจากดีลการเพิ่มสัดส่วนลงทุน CPP ของเราอิงสมมติฐานของบริษัทที่ยัง Conservative ซึ่งในมุมมองของเรา คาด CPF จะรับรู้กำไรส่วนเพิ่มที่สูงกว่าจากแนวโน้มธุรกิจหมูเวียดนามในปีนี้ที่จะเติบโตเด่นเป็นอัพไซด์ คงคำแนะนำ ซื้อ และคงราคาเหมาะสมที่ 30 บาท

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองเป็นกลางต่อข้อตกลงนี้ แม้ว่ามูลค่าจะดูสูงไปบ้าง และความเสี่ยงจากราคาหมูในจีนยังคงมีอยู่ แต่ไม่คาดว่าจะมีความกดดันจากงบดุล โดย CPF จะรักษาสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ประมาณ 1.7 เท่าหลังจากข้อตกลงนี้ ซึ่งเทียบกับสัดส่วน D/E ที่ 1.6 เท่า ในปี 2567 ทั้งนี้คาดว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/68 จะยังคงแข็งแกร่งมาก และคงคำแนะนำ "ซื้อ”

CPF