คปภ. ผนึกจ.ปราจีนบุรี ภาคธุรกิจประกันภัย ทีดีอาร์ไอ จัดงาน “ปราจีน ยืนหนึ่งถนนปลอดภัย อุ่นใจด้วยการประกันภัย”
คปภ. ผนึกกำลังจังหวัดปราจีนบุรี ภาคธุรกิจประกันภัย ทีดีอาร์ไอ จัดงาน“ปราจีน ยืนหนึ่งถนนปลอดภัย อุ่นใจด้วยการประกันภัย” Kick off พื้นที่ต้นแบบความปลอดภัยทางถนน รณรงค์ พ.ร.บ. ปี 2568 พร้อมจัดเวทีเสวนาถอดรหัส ถนน 304 เสนอบังคับใช้ กม. ออกมาตรการลดเสี่ยง
นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าววิสัยทัศน์ในหัวข้อ “คปภ. กับบทบาทเชิงรุก : ส่งเสริมความปลอดภัยทางถนนควบคู่การประกันภัย” ว่า โครงการสร้างพื้นที่ต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนนและการรณรงค์ประกันภัยรถภาคบังคับ ปี 2568 เป็นมิติใหม่ในการดำเนินโครงการของสำนักงาน คปภ. เนื่องจากอัตราการเกิดอุบัติเหตุมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในทุก ๆ ปี โดยค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์ที่น่ากังวล โดยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนนเฉลี่ยสูงถึง 14,000 รายต่อปี
ซึ่งนอกจากจะสร้างความสูญเสียในระดับครอบครัวแล้ว ยังส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ “กลุ่มผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บส่วนใหญ่คือวัยแรงงานอายุ 36-60 ปี ซึ่งเป็นกำลังหลักของครอบครัว และมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ การสูญเสียจึงไม่ได้หยุดอยู่แค่สถิติ แต่มันคือการสูญเสียโอกาสในการพัฒนาในระยะยาว” พร้อมเน้นย้ำว่าการมีประกันภัยรถภาคบังคับช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเมื่อต้องเผชิญอุบัติเหตุ
โดยกฎหมายกำหนดให้รถทุกคันต้องจัดทำประกันภัยรถภาคบังคับ ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองสูงสุดถึง 504,000 บาทต่อราย อย่างไรก็ตาม จากสถิติพบว่ามีเพียงร้อยละ 79.97 ของรถจดทะเบียนเท่านั้นที่จัดทำประกันภัยรถภาคบังคับ โดยเฉพาะในกลุ่มรถจักรยานยนต์ ซึ่งมีอัตราการทำประกันภัยเพียงร้อยละ 68.51เมื่ออุบัติเหตุเกิดขึ้น ผลกระทบไม่ได้จบที่ผู้ประสบเหตุ แต่ยังลุกลามไปถึงครอบครัวที่ต้องรับภาระหนี้สิน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ การมีระบบประกันภัยที่ครอบคลุมจึงเป็นแนวทางที่สำคัญในการเยียวยา ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงความคุ้มครองอย่างรวดเร็วเป็นธรรม และลดผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ยืนยันที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนมาตรการเชิงรุกต่อเนื่อง ทั้งด้านการสร้างความรู้ความเข้าใจ ส่งเสริมวินัยจราจร และเพิ่มการเข้าถึงระบบประกันภัยให้ครอบคลุม ทุกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนในสังคมไทย
ด้านนายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า จังหวัดปราจีนบุรีสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ตามเป้าหมายของแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์อุบัติเหตุใหญ่บนเส้นทางเสี่ยงในช่วงที่ผ่านมา ยังคงสะท้อนให้เห็นว่ามาตรการด้านความปลอดภัยต้องได้รับการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง การได้รับเลือกให้เป็นพื้นที่ต้นแบบ ไม่ใช่เพียงโอกาส แต่คือความรับผิดชอบที่ต้องเดินหน้าขับเคลื่อนอย่างจริงจัง
พร้อมเน้นย้ำว่า ระบบประกันภัยถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบจากอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการเยียวยาความเสียหาย และการสนับสนุนการดำเนินงานด้านความปลอดภัย ผ่านความร่วมมือระหว่างภาคประกันภัย ภาครัฐ และเอกชน “เราต้องส่งเสริมให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงประกันภัยรถภาคบังคับอย่างทั่วถึง เพราะเป็นหลักประกันความมั่นคงที่จำเป็นและช่วยแบ่งเบาภาระที่เกิดจากความสูญเสียให้กับทุกคนได้
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการฯนี้มีเป้าหมายสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1. ศึกษาวิจัยเชิงลึก ปัจจัยเสี่ยงในพื้นที่จริง โดยจังหวัดปราจีนบุรีได้รับเลือกเป็นพื้นที่ต้นแบบ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของภาคตะวันออก และเป็น จุดเชื่อมโยงเส้นทางสายหลักหลายสาย ซึ่งข้อมูลที่ได้จะนำมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาแนวทางลดอุบัติเหตุที่สอดคล้องกับบริบทในแต่ละพื้นที่ 2. สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน เกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนนและสิทธิประโยชน์จากการประกันภัยรถภาคบังคับ เพื่อให้เข้าถึงหลักประกันความคุ้มครองได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน และ 3. บูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เพื่อผลักดันมาตรการป้องกันอุบัติเหตุให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมนำข้อมูลวิจัยมาพัฒนา แนวทางแก้ไขที่มีประสิทธิภาพต่อไป โดยโครงการนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการสร้างมาตรการป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เป็นระบบและยั่งยืน พร้อมเน้นว่า การพัฒนามาตรการความปลอดภัยควรเดินควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ประชาชนมีประกันภัยรถภาคบังคับอย่างทั่วถึง ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากอุบัติเหตุและสร้างความมั่นคงให้กับประชาชนได้
“สำนักงาน คปภ. จะยืนอยู่เคียงข้างทุกท่านในฐานะพลังสนับสนุน เพื่อให้ระบบประกันภัยไม่ใช่แค่เครื่องมือเยียวยาหลังอุบัติเหตุ แต่กลายเป็นเกราะป้องกันชีวิตที่ทุกคนเข้าถึงได้จริง เราเชื่อมั่นว่าจังหวัดปราจีนบุรีจะกลายเป็นต้นแบบของความเปลี่ยนแปลงนี้ได้ และสำนักงาน คปภ. พร้อมเดินหน้าสานต่อภารกิจสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนให้หยั่งรากในทุกพื้นที่ จนกว่าทุกคนบนท้องถนนจะได้รับความคุ้มครองที่พวกเขาสมควรได้รับอย่างแท้จริง” เลขาธิการ คปภ. กล่าว
ยอดนิยม

วิริยะประกันภัย คว้า 2025 Thailand’s Most Admired Brand & Company ตอกย้ำแบรนด์ที่น่าเชื่อถือที่สุด ครองใจผู้บริโภค

MTL มอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ สถานะ The Ultimate และ Beyond Prestige ประจำปี 2568
