Talk of The Town

IMF หั่น GDP ไทยหนัก! โตต่ำสุดในอาเซียน เซ่นพิษทรัมป์ป่วนโลก


23 เมษายน 2568

TRADE WAR 2 เดือด! ล่าสุด IMF เผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยได้ปรับลดประมาณการ GDP GROWTH ลงมาในหลายประเทศทั่ว โลก จากผลกระทบนโยบายปรับขึ้นภาษำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ

IMF หั่น GDP_S2T (เว็บ) copy.jpg

ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า วานนี้ IMF เผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยได้ปรับลดประมาณการ GDP GROWTH ลงมาในหลายประเทศทั่วโลก จากผลกระทบนโยบายปรับขึ้นภาษำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ โดยเฉลี่ยพุ่งขึ้นสู่ระดับ 22.8% (ก่อนขึ้นภาษีรอบใหม่ อยู่ในระดับเฉลี่ยราว 2.3%) 

1.โลก คาดเศรษฐกิจขยายตัว 2.8% ในปี 2568 (เดิมคาด 3.3%) และ 3.0% ในปี 2569 (เดิมคาด 3.3%)

  1. สหรัฐฯ คาดเศรษฐกิจขยายตัว 1.8% ในปี 2568 (เดิมคาด 2.7%) และ 1.7% ในปี 2569 (เดิมคาด 2.1%)

  2. จีน คาดเศรษฐกิจขยายตัว 4.0% ในปี 2568 (เดิมคาด 4.6%) และ 4.0% ในปี 2569 (เดิมคาด 4.5%)

  3. ไทย คาดเศรษฐกิจขยายตัวเพียง 1.8% ในปี 2568 (เดิมคาด 2.9%) และ 1.6% ในปี 2569 ซึ่งถูกหั่นลงต่ำสุดในอาเซียน

ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกรณีผลตอบแทน SET ช่วงที่ GDP GROWTH ของไทยติดลบต่อกัน 2 ไตรมาส (TECHNICAL RECESSION) หรือเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ที่เกิดขึ้น 4 ครั้งล่าสุด พบว่า

1.ช่วงไตรมาสมาสแรกที่ GDP ติดลบ จะกดดันผลตอบแทน SET INDEX เฉลี่ย -5%

2.ช่วงไตรมาสมาส 2 ที่ GDP ติดลบ จะกดดันผลตอบแทน SET INDEX เฉลี่ย -8%

3.ช่วงที่เกิด TECHNICAL RECESSION หลังจากนั้น 1.5 เดือน (หลังจากที่สภาพัฒน์ประกาศตัวเลขอย่าง เป็นทางการ) ผลตอบแทน SET INDEX จะปรับตัวสูงขึ้นราว +0.4%

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่สหรัฐฯ ผ่อนคลายมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากร ก่อนที่จะครบกำหนดวันเรียกเก็บภาษี ตอบโต้ในวันที่ 9 ก.ค. 2568 เชื่อว่าจะทำให้สงครามการค้ารุนแรงน้อยลง และผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจอาจเบา กว่าตลาดการณ์ ซึ่งน่าจะเป็นแรงหนุนให้ตลาดหุ้นดีดตัวได้

ดังนั้นภาพปัจจัยแวดล้อมผ่อนคลายลงมามาก ทั้ง IMF ประเมินเศรษฐกิจโลกยังไม่เข้าสู่ช่วง RECESSION, สหรัฐฯ แสดง ท่าที ลดระดับ TRADE WAR กับจีน ฝ่ายวิจัยฯ แนะนำ เข้าสู่ช่วงเพิ่มระดับความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน โดย แนะนำเก็งกำไร และสะสมหุ้น 2 ชุด ดังนี้

หุ้นเก็งกำไร หวังรีบาวน์แรง เป็นหุ้นพื้นฐานลงลึก, มี BETA > 1, มี ESG RATING อย่าง KCE, WHA, DELTA, AMATA, BGRIM, SCGP, TOP, AOT, PTTGC, GPSC, SCC, TU, CENTEL, LH, SAWAD

หุ้นเด่นน่าทยอยสะสม หวังการเติบโตแบบแข็งแกร่งในระยะยาว เป็นหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งอันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม มี DIV YIELD > 3%, กำไรเป็นบวกทุกปีตลอด 5 ปีที่ผ่านมา และมี ESG RATING อย่าง SCC, CPALL, BDMS, WHA, KCE, CK, AP, SCGP, BBL

IMF หั่น GDP_S2T (เพจ) copy.jpg

IMF