รายงานพิเศษ : EKH ยกระดับ เป็นโรงพยาบาลตติยภูมิ ให้บริการครบวงจรทุกกลุ่มทุกโรคร้ายแรง
EKH วางเป้าหมายเป็นโรงพยาบาลตติยภูมิ มีศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญครอบคลุมทุกกลุ่มโรคซับซ้อน ชูศูนย์ IVF-รพ.คูน ดีมานด์พุ่งทะลัก ดันปี 2568 รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 7%
การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ-สายพันธุ์บี และ COVID-19 ที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทยช่วงต้นปี 2568 ถือเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Healthcare รวมถึงสถานพยาบาลเอกชนอย่าง บมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH) เนื่องจากทำให้อัตราการเข้าใช้บริการของผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยนายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชัย ยังคงเดินหน้าขยายการให้บริการด้านสุขภาพใหม่ๆ รวมถึงลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพในพื้นที่อื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อยกระดับการบริการทางการแพทย์ให้ครบวงจร สามารถรองรับความต้องการที่ยังมีอยู่อีกมาก ที่สำคัญถือเป็นการเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ในอนาคตอย่างสม่ำเสมอ
***สตอรี่ที่น่าจับตา
EKH ตั้งเป้ายกระดับขึ้นเป็นโรงพยาบาลตติยภูมิ (Tertiary Care) ที่มีศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญครอบคลุมทุกกลุ่มโรคซับซ้อน ครอบคลุมกลุ่มโรคร้ายแรง ล่าสุดเตรียมเปิดให้บริการศูนย์การแพทย์เฉพาะทางเพิ่มเติม อาทิ ศูนย์โรคหัวใจ ศูนย์โรคกระดูกและข้อ และศูนย์ศัลยกรรม-พลาสติก มีกำหนดเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 2/2568
***ดันเป้ารายได้ปีนี้โต 7%
สำหรับภาพรวมธุรกิจปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากปี 2567 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของผู้เข้ารับบริการที่โรงพยาบาลเอกชัย สมุทรสาคร ทั้งในส่วนของผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) ที่เข้ารับการรักษาตามศูนย์บริการทางการแพทย์ที่รักษาโรคเฉพาะทางต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ฉุกเฉิน, ศูนย์กุมารเวช, ศูนย์สูติ-นรีเวช, ศูนย์ หู ตา คอ จมูก, ศูนย์ทันตกรรม, ศูนย์กายภาพบำบัด และศูนย์ไตเทียม รวมถึงการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เข้ารับบริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก EKI-IVF พระราม 9 โดยเฉพาะกลุ่มชาวจีนและการเพิ่มขึ้นของผู้เข้ารับบริการที่โรงพยาบาลคูน โดยตั้งเป้าผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ปี 2568 จะเติบโต ไม่ต่ำกว่า 7%
***รุกขยายฐานโรงพยาบาล
ส่วนประเด็นที่น่าจับตา คือ แผนการขยายธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยปี 2569 บริษัทฯ มีแผนเปิด 3 โครงการใหม่เพิ่ม คือ 1.การก่อสร้างอาคาร C ซึ่งเป็นอาคารส่วนขยายเพื่อรองรับจำนวนผู้เข้ารับบริการทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้น, โรงพยาบาลคูนอ่าวนางขนาด 36 เตียง เพื่อรักษาผู้ป่วยเฉพาะทางแบบประคับประคองทั้งชาวไทยและต่างชาติ และโรงพยาบาลบลูม ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านสุขภาพจิตและจิตเวชขนาด 50 เตียง รวมถึงดีล M&A และแผนรุกธุรกิจใหม่ๆ ที่จะช่วยสนับสนุนให้การเติบโตของรายได้ และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
***อัดวงเงิน 400 ลบ.ซื้อหุ้นคืน
จากภาวะตลาดปัจจุบันส่งผลทำให้หุ้น EKH ต่ำกว่าราคามูลค่าที่แท้จริง บริษัทฯ จึงได้เปิดโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) โดยดำเนินการซื้อหุ้นคืนสูงสุดไม่เกิน 63,492,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนคิดเป็น 7.42% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด คิดเป็นวงเงินซื้อคืนสูงสุดไม่เกิน 400,000,000 บาท กําหนดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม ถึงวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 เพื่อบริหารสภาพคล่องส่วนเกินให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพิ่มอัตราส่วนผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น (ROE) และกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) รวมถึงทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของธุรกิจบริษัทฯ สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่มีความแข็งแกร่งและยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
***โบรกฯ เชียร์ ซื้อ เคาะเป้าราคา 8.35 บ.
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดกำไรปกติปี 2568 ของ EKH จะเติบโต 8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 340 ล้านบาท รับปัจจัยบวกจาก 1.การระบาดของโรคที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.การเปิดศูนย์หัวใจและหลอดเลือดในไตรมาส 2/2568 และ 3.รับผลบวกเต็มปีจากการเพิ่มเอเจนซี่รายใหม่อีก 1 รายในการหาลูกค้าจีนมารักษา (เริ่มเดือนก.ย.2567) และคงแผนขยายธุรกิจใหม่ต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโต
ขณะที่สถานะทางการเงินของ EKH ยังแข็งแกร่ง ไม่มีภาระหนี้สิน ฝ่ายวิจัยฯ ปรับมูลค่าพื้นฐานปี 2568 จากเดิมที่ 8.19 บาท เป็น 8.35 บาท สะท้อนการปรับประมาณการ อิงวิธี DCF สมมติฐาน WACC ที่ 7.8%,Terminal Growth ที่ 2%