Talk of The Town

เปิด 3 เหตุผล ทองจะกลับไป 3,700 ดอลลาร์ แตะ 60,000 บาท ภายในสิ้นปีนี้


24 เมษายน 2568

ในวันพุธ (23 เม.ย.) ราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 125.30 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 3,294.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ออกมาเคลื่นไหว โดยบอกว่าไม่มีแผนปลดประธานเฟด

เปิด 3 เหตุผล_S2T (เว็บ) copy.jpg

นอกจากนี้ ยังส่งสัญญาณมีความคืบหน้าในทางบวกกับจีน ในประเด็นรีดภาษี ผลักให้นักลงทุนเทขายทองคำ

สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทองวันนี้ (24 เม.ย.68) เวลา 09:04 น. (ครั้งที่ 1) เพิ่มขึ้น 600 บาท

ทองคำแท่งรับซื้อคืน 53,200.00 บาท ขายออก 53,300.00 บาท

ทองรูปพรรณรับซื้อคืน 52,241.36 บาท ขายออก 54,100.00 บาท

ประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บล.เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด(มหาชน) มองว่า ราคาทองคำจะกลับไป 3,700 ดอลลาร์  แตะ 60,000 บาท ภายในสิ้นปีนี้

ทั้งนี้ Goldman Sachs ทำการปรับเป้าหมายทองสิ้นปี 2568  เพิ่มขึ้นเป็น 3,700 ดอลลาร์/ออนซ์ (จากเดิม 3,300 ดอลลาร์) พร้อมช่วงคาดการณ์ใหม่ที่ 3,650–3,950 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมีเหตุผลดังนี้

-ความต้องการทองคำจากธนาคารกลางที่แข็งแกร่งกว่าคาด
 
-กระแสเงินไหลเข้า ETF ทองคำที่เพิ่มขึ้นตามความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยที่สูงขึ้น
 
-ธนาคารกลางยังซื้อต่อเนื่อง

Gold Sachs ปรับเพิ่มสมมติฐานการซื้อทองของธนาคารกลางเป็น 80 ตัน/เดือน (จากเดิม 70 ตัน/เดือน) ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยหลังปี 2565 ที่ 86 ตัน/เดือน แต่สูงกว่าค่าเฉลี่ยก่อนปี 2565  ที่ 17 ตัน/เดือน

ข้อมูลล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์พบการซื้อถึง 106 ตัน โดยจีนซื้อสูงสุดที่ 50 ตัน

กระแสเงินเข้า ETF ทองคำพุ่งแรงในช่วงความกังวลเศรษฐกิจ

Goldman Sachs ประเมินโอกาสเกิดภาวะถดถอยในสหรัฐฯ ภายใน 12 เดือนข้างหน้าที่ 45%กระแสเงินมักไหลเข้า ETF ทองคำ ณ ระดับดอกเบี้ยที่บ่งชี้ เศรษฐกิจกำลังถดถอย (Fed เริ่มปรับลดดอกเบี้ยในระยะ Mid Cycle) หากเกิดภาวะถดถอยจริง ราคาทองอาจขึ้นแตะ 3,880 ดอลลาร์/ออนซ์ ภายในสิ้นปี

โอกาสที่ทองจะกลับมาขึ้นอีกยังมีอีกมาก หากธนาคารกลางซื้อเฉลี่ย 100 ตัน/เดือน ทองอาจแตะ 3,810 ดอลลาร์ หากเกิดการเก็งกำไรสูงแบบช่วงโควิดหรือ Fed ผ่อยนคลายนโยบายการเงิน เงินอาจไหลเข้า ETF ระดับสูงรุนแรงมากยิ่งขึ้น ราคาทองอาจพุ่งถึง $4,500/ออนซ์ ภายในสิ้นปี 2025 (แม้ความน่าจะเป็นต่ำมาก)