รายงานพิเศษ : FM อนาคตเติบโตแข็งแกร่ง ดีมานด์ตลาดไก่ปรุงสุกพุ่ง ต้นทุนมีแนวโน้มปรับลดลง
บมจ.ฟู้ดโมเม้นท์ (FM) อนาคตสดใสแนวโน้มการเติบโตแข็งแกร่ง จากความต้องการไก่แปรรูปปรุงสุกที่มีมาก วางกลยุทธ์ ขยายตลาดใหม่ สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า ผลักดันรายได้แตะ 1หมื่นลบ.ภายในปี 2570
บทวิจัยกรุงศรีคาดการณ์ปี 2567-2569 แนวโน้มปริมาณการผลิตไก่จะเติบโต 2.0-3.0% ต่อปี อยู่ที่ 1.99-2.10 พันล้านตัว และปริมาณเนื้อไก่จะยังคงเติบโต 1.5-2.5% ต่อปี อยู่ที่ 3.19-3.35 ล้านตัน จากความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศที่จะขยายตัวดีขึ้น รวมถึงการปรับลดลงของต้นทุนอาหารเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โดยปริมาณการบริโภคในประเทศคาดจะเติบโต 1.0-2.0 % ต่อปี ส่วนปริมาณการส่งออกคาดเติบโต 3.5-4.5% ต่อปี โดยไก่แปรรูป ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลก สัดส่วน 26.9% ของปริมาณส่งออกไก่แปรรูปทั้งหมดในตลาดโลก รองลงมา คือ จีน 12.6% เยอรมนี 8.3% และโปแลนด์ 8.2%
ถือเป็นโอกาสของ บมจ.ฟู้ดโมเม้นท์ (FM) ผู้นำการพัฒนาอาหารแปรรูปปรุงสุกจากเนื้อไก่ (CAV Products) ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิต การผลิตและจำหน่ายไก่ชำแหละ เดินหน้าขยายธุรกิจ ขยายการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโต
ปี 68 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 15%
นายณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FM เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2568 บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 15 % สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง (New High) จากปริมาณคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น ทั้งจากลูกค้ารายเดิมและลูกค้ารายใหม่ จากสินค้าในกลุ่มเนื้อไก่ชำแหละเติบโต 5-7% (มีสัดส่วน 60% ของรายได้รวม) และกลุ่มสินค้าไก่แปรรูปปรุงสุก (CAV Product) เติบโต 20-25% (มีสัดส่วน 40% ของรายได้รวม)
ขณะเดียวกันบริษัทฯจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ที่ระดับ 13-15% รวมถึงจะมีการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายให้อยู่ที่ระดับ 4.5-5%
ทุ่มงบลงทุน 300-400ลบ.อัพกำลังผลิต
ปี 2568 บริษัทฯได้วางงบลงทุนไว้ที่ 300-400 ล้านบาท แบ่งเป็นใช้ในกลุ่มสินค้าไก่แปรรูปปรุงสุกประมาณ 60% เพื่อเพิ่มกำลังผลิตการผลิตอีก 33% และใช้ในโรงชำแหละ 40%
ตั้งเป้ารายได้ 10,000 ลบ. ในปี 70
นอกจากนี้ บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้รวมในปี 2570 แตะที่ระดับ 10,000 ล้านบาท โดยการเติบโตจะมาจากสินค้าในกลุ่มเนื้อไก่ชำแหละ และกลุ่มสินค้าไก่แปรรูปปรุงสุก (CAV Product) โดยในปี 2570 สัดส่วนรายได้จากกลุ่ม CAV จะเพิ่มเป็น 60%)
เปิดกลยุทธ์สร้างการเติบโต
FM เปิดดำเนินการมาแล้ว 47 ปี กลยุทธ์หลักที่สร้างการเติบโต ประกอบด้วย 1.เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูป ซึ่งสร้างอัตรากำไรที่สูง ควบคู่กับการสรรหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆในการผลิตที่ทันสมัย เป็นที่นิยมและดีต่อสุขภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคร่วมกับลูกค้าของบริษัทฯ ทำให้สามารถขายสินค้าได้ในราคาที่มีกำไรที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2.วางแผนการผลิตเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากทุกส่วนของไก่และไม่มีส่วนสูญเสียจากกระบวนการผลิต (Zero Wasted) ทำให้สามารถเพิ่มอัตรากำไรที่ดีขึ้นจากการเพิ่มมูลค่าให้กับ Waste และมีแผนขยายสู่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งจะยกระดับอัตรากำไรให้ดียิ่งขึ้น และ 3.ขยายฐานลูกค้าไปยังภูมิภาคใหม่ๆ และรักษาฐานลูกค้าปัจจุบัน โดยการรักษามาตรฐานในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ หลากหลาย และมีมูลค่าเพิ่ม เพื่อผลประกอบการที่เติบโตอย่างยั่งยืน
“กลยุทธ์ FM คือการสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปปรุงสุก ที่มีมาร์จิ้นดีและมีการเติบโตสูง รวมทั้งการขยายกำลังการผลิต ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพิ่มไลน์การผลิตใหม่ของโรงงานแปรรูปไก่ปรุงสุก และโรงเชือดและชำแหละไก่ รวมถึงการขยายตลาดต่างประเทศใหม่ๆ"
รุกขยายฐานลูกค้าใหม่
ด้วยกลยุทธ์เชิงรุกในการพัฒนา และการขยายฐานลูกค้าใหม่ บริษัทฯเชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขัน และเติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต จากการขยายตลาดต่างประเทศใหม่ๆ
"ในปี 2568 เราเตรียมบุกตลาดฟิลิปปินส์ และประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ตั้งเป้าภายใน 3 ปี (2568 -2570 ) เพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเป็น 65% จากปัจจุบัน 50%
บริษัทฯเน้นขยายลูกค้าในกลุ่มร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ที่เป็นแบรนด์ระดับโลก โดยการเติบโตของลูกค้าใหม่จะมาจาก 2 ส่วน ได้แก่ 1.การขยายลูกค้าในประเทศไทยในกลุ่มที่ยังไม่เคยใช้สินค้าของบริษัท และ 2.การขยายลูกค้าใหม่ในกลุ่มที่อยู่ในอุตสาหกรรมอยู่แล้ว ทั้งนี้ ด้วยการมีทีมในการทำ R&D ที่แข็งแกร่ง และมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ถือเป็นจุดเด่นและความต่างของ FM ในการแข่งขัน"
เพิ่มสัดส่วนส่งออก 65 % ในปี 70
ปัจจุบันบริษัทฯมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกอยู่ที่ 50% และในปี 2570 สัดส่วนจะเพิ่มขึ้นเป็น 65% โดยจะมาจากการเติบโตขึ้นของลูกค้าเดิมที่มีการขยายมากขึ้น ขณะเดียวกันยังมีการขยายฐานลูกค้าใหม่ รวมถึงการขยายประเทศไหม่ๆ โดยในปี 2568 จะมีการเน้นขยายในตลาดฟิลิปปินส์เป็นหลัก และประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ได้มีการเปิดตลาดในปี 2567 ที่ผ่านมา และในปี 2569 จะมีการขยายตลาดซาอุดีอาระเบียเพิ่ม
ทั้งกลยุทธ์ที่ดี การวางโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่ง รวมทั้งมีการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าที่เหนือกว่าคู่แข่ง นั้นคือ "จุดแข็ง" และความน่าสนใจในการตัดสินใจในการลงทุน หุ้นอาหารอนาคตดี ต้องเลือก FM ติดพอร์ตไว้เลย