“สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ (STI)” ได้รับความเชื่อมั่นจาก “ยูนิเวนเจอร์ แคปปิตอล (UVCAP)” ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ลุยซื้อหุ้นเพิ่ม รวมถือสัดส่วน 38.12% ด้านผู้บริหาร STI ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อตั้ง พร้อมเคลื่อนทัพปีนี้ ขยายการเติบโตอย่างมืออาชีพ และมีความเป็นอิสระในการบริหารงาน ย้ำ STI ยืนหนึ่งบริษัทที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้าง ที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน
บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 ว่า บริษัท ยูนิเวนเจอร์ แคปปิตอล จำกัด (UVCAP) บริษัทย่อยของกลุ่มยูนิเวนเจอร์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ เข้าลงทุนซื้อหุ้น STI เพิ่มอีก 72.36 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 12% ของหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมดของ STI ในราคาหุ้นละ 5.60 บาท มูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 405.22 ล้านบาท จากผู้ถือหุ้นเดิมของ STI ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อตั้งบริษัท 5 ราย ประกอบด้วย นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ , นายไพรัช เล้าประเสริฐ , นายสมจิตร์ เปี่ยมเปรมสุข , นายอิสรินทร์ สุวัฒโน และ นายกิตติศักดิ์ สุภาควัฒน์
ส่งผลให้ UVCAP เข้าถือหุ้นของ STI รวมทั้งหมด 229.86 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 38.12% ของหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมด (จากเดิม 26.12%) และการทำรายการเสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566
นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และในฐานะผู้ถือหุ้น STI กล่าวว่า การเข้าลงทุนของ UVCAP ถือเป็น Strategic Partner ที่ร่วมสร้างการเติบโตไปด้วยกันอย่างแท้จริง เนื่องจากยังคงให้ความไว้วางใจต่อทีมผู้บริหารชุดเดิม ในการบริหารจัดการองค์กร และให้ความเป็นอิสระในการให้บริการแก่ลูกค้าทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน ด้วยเชื่อมั่นในทีมผู้บริหาร ที่มีความเป็นมืออาชีพ โปร่งใส มีทีมงานที่มีศักยภาพ และความพร้อมในการบริหารงานโครงการก่อสร้างที่หลากหลายประเภท
ดังนั้นเรายังคงเดินหน้าสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ อย่างต่อเนื่อง พร้อมปรับกลยุทธ์ในการขยายงานที่ปรึกษาบริหารโครงการฯ ให้สอดรับกับทิศทางเศรษฐกิจที่ทยอยกลับมาพร้อมการเปิดประเทศ ด้วยกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งจะฟื้นตัวอย่างชัดเจนในปี 2566 ภาคเอกชนเริ่มมีการลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนนโยบายภาครัฐในการเร่งดำเนินงานโครงสร้างพื้นฐานยังถือเป็นปัจจัยบวกให้กับการดำเนินงานของบริษัทฯ นอกจากนี้เรายังคงมองหาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันเพื่อเข้ามาเสริมการทำงานให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยให้กระบวนการทำงานมีความถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น ด้วยจุดมุ่งหมายในการสร้าง STI เป็นสถาบันทางด้านวิศวกร ที่มีมาตรฐานวิชาชีพระดับสากล เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า พร้อมกับเดินหน้าสร้างการเติบโตในทุกมิติ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้น อย่างมั่นคง และยั่งยืน
นายไพรัช เล้าประเสริฐ ในฐานะผู้ถือหุ้นของ STI และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ จำกัด (STH) (บริษัทย่อย) กล่าวเสริมว่า การเข้าลงทุนของ UVCAP ในครั้งนี้ กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม มองถึงการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่ร่วมสนับสนุนการบริหารงานของ STI ด้วยดีมาโดยตลอด การตัดสินใจขายหุ้น STI ครั้งนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบริหารงานขององค์กรแต่อย่างใด เรายังคงมีความเป็นอิสระในการบริหารจัดการ วางแผนและกำหนดกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินงานได้อย่างเป็นอิสระ โดยเฉพาะในปี 2566 เรามุ่งมั่นที่จะบริหารงานด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ และพร้อมพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของ ESG ภายใต้การคำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และ บรรษัทภิบาล
บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 ว่า บริษัท ยูนิเวนเจอร์ แคปปิตอล จำกัด (UVCAP) บริษัทย่อยของกลุ่มยูนิเวนเจอร์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ เข้าลงทุนซื้อหุ้น STI เพิ่มอีก 72.36 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 12% ของหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมดของ STI ในราคาหุ้นละ 5.60 บาท มูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 405.22 ล้านบาท จากผู้ถือหุ้นเดิมของ STI ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อตั้งบริษัท 5 ราย ประกอบด้วย นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ , นายไพรัช เล้าประเสริฐ , นายสมจิตร์ เปี่ยมเปรมสุข , นายอิสรินทร์ สุวัฒโน และ นายกิตติศักดิ์ สุภาควัฒน์
ส่งผลให้ UVCAP เข้าถือหุ้นของ STI รวมทั้งหมด 229.86 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 38.12% ของหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมด (จากเดิม 26.12%) และการทำรายการเสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566
นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และในฐานะผู้ถือหุ้น STI กล่าวว่า การเข้าลงทุนของ UVCAP ถือเป็น Strategic Partner ที่ร่วมสร้างการเติบโตไปด้วยกันอย่างแท้จริง เนื่องจากยังคงให้ความไว้วางใจต่อทีมผู้บริหารชุดเดิม ในการบริหารจัดการองค์กร และให้ความเป็นอิสระในการให้บริการแก่ลูกค้าทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน ด้วยเชื่อมั่นในทีมผู้บริหาร ที่มีความเป็นมืออาชีพ โปร่งใส มีทีมงานที่มีศักยภาพ และความพร้อมในการบริหารงานโครงการก่อสร้างที่หลากหลายประเภท
ดังนั้นเรายังคงเดินหน้าสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ อย่างต่อเนื่อง พร้อมปรับกลยุทธ์ในการขยายงานที่ปรึกษาบริหารโครงการฯ ให้สอดรับกับทิศทางเศรษฐกิจที่ทยอยกลับมาพร้อมการเปิดประเทศ ด้วยกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งจะฟื้นตัวอย่างชัดเจนในปี 2566 ภาคเอกชนเริ่มมีการลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนนโยบายภาครัฐในการเร่งดำเนินงานโครงสร้างพื้นฐานยังถือเป็นปัจจัยบวกให้กับการดำเนินงานของบริษัทฯ นอกจากนี้เรายังคงมองหาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันเพื่อเข้ามาเสริมการทำงานให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยให้กระบวนการทำงานมีความถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น ด้วยจุดมุ่งหมายในการสร้าง STI เป็นสถาบันทางด้านวิศวกร ที่มีมาตรฐานวิชาชีพระดับสากล เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า พร้อมกับเดินหน้าสร้างการเติบโตในทุกมิติ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้น อย่างมั่นคง และยั่งยืน
นายไพรัช เล้าประเสริฐ ในฐานะผู้ถือหุ้นของ STI และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ จำกัด (STH) (บริษัทย่อย) กล่าวเสริมว่า การเข้าลงทุนของ UVCAP ในครั้งนี้ กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม มองถึงการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่ร่วมสนับสนุนการบริหารงานของ STI ด้วยดีมาโดยตลอด การตัดสินใจขายหุ้น STI ครั้งนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบริหารงานขององค์กรแต่อย่างใด เรายังคงมีความเป็นอิสระในการบริหารจัดการ วางแผนและกำหนดกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินงานได้อย่างเป็นอิสระ โดยเฉพาะในปี 2566 เรามุ่งมั่นที่จะบริหารงานด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ และพร้อมพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของ ESG ภายใต้การคำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และ บรรษัทภิบาล