โบรกฯ มอง Thai ESGX มาถูกที่ ถูกเวลา ถูกจังหวะ” พร้อมวิเคราะห์เชิงปริมาณตลอด 25 ปีที่ผ่านมา หากลงทุนระยะยาวใน SET 5 ปี โดยซื้อหุ้นในช่วง PBV < 1.1 เท่า พบว่า SET มีโอกาสให้ผลตอบเฉลี่ยแทนสูงถึง 208% ใน 5 ปีข้างหน้า
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า Thai ESGX ก.ล.ต. แจ้งว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาคำขออนุมัติจัดตั้งกองทุน Thai ESGX รวม 37 แห่ง คาดว่าจะเสนอขายและรองรับการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจากกองทุน LTF นับจาก 2 พ.ค. 2568
ประเมินจิตวิทยาบวกต่อ SET จาก 1.) คาดมีความชัดเจนเม็ดเงินลงทุนกองทุน LTF ที่เหลืออยู่ในปัจจุบัน 2.) คาดหวังเม็ดเงินใหม่เข้ามาลงทุนในวงเงินลดหย่อนภาษีพิเศษ (เปิดขาย 2 พ.ค. – 30 มิ.ย. 25) เป็นสภาพคล่องเพิ่มเติมเข้ามาในตลาด อิงยอดซื้อช่วงมาตรการคล้ายกัน SSFX รอบดังกล่าวมีเม็ดเงินใหม่ราว 3 พันล้านบาท ซึ่งเราประเมินรอบนี้น่าจะคาดหวังเม็ดเงินระดับใกล้เคียงกัน
ทั้งนี้ หุ้นที่มีโอกาสเป็นเป้าหมายเม็ดเงิน 10 หุ้น Deep Value CPALL, BDMS, MINT, BH, GPSC, SCGP, HMPRO, KBANK, BBL, AOT
หุ้น High Yield อาทิ สื่อสาร ADVANC ธนาคาร KTB, KBANK, SCB, BBL กลุ่มอสังหาฯ AP, LH และหุ้น New S Curve โดยเฉพาะ Infrastructure Tech อาทิ โรงไฟฟ้า GULF, GPSC สื่อสาร ADVANC, TRUE รับเหมา STECON
ส่วนความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด มองว่า “ถูกที่ ถูกเวลา ถูกจังหวะ” กองทุน THAI ESGX น่าซื้อสะสม แถมนำมาลดหย่อนภาษีได้อีก
แม้ช่วงที่ผ่านมา 5 – 6 ปี ตลาดหุ้นไทยจะย่อตัวลงมาลึกจาก 1,700 – 1,800 จุด (PBV > 1.8 เท่า) เหลือ 1,146 จุด ซึ่งการลงมาแรง ส่งผลให้นักลงทุนขาดทุน เพราะช่วง 5 – 6 ปี ตลาดหุ้นไทยเผชิญวิกฤตหนักๆ พอดี ทั้งโควิด และคร่อมช่วงปลาย TRADE WAR 1 และต้น TRADE WAR 2 กดดันจน PBV ของ SET ปัจจุบันเหลือ 1.07 เท่า เท่านั้น
ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯ จึงทำการวิเคราะห์เชิงปริมาณตลอด 25 ปีที่ผ่านมา หากลงทุนระยะยาวใน SET 5 ปี โดยซื้อหุ้นในช่วง PBV < 1.1 เท่า พบว่า SET มีโอกาสให้ผลตอบเฉลี่ยแทนสูงถึง 208% ใน 5 ปีข้างหน้า (เฉลี่ย 25% ต่อปี)
ส่วนปัจจุบัน มีเม็ดเงินคงค้างในกองทุน LTF ที่ 1.52 แสนล้านบาท (ณ 23 เม.ย. 68) และหากดูผลตอบแทนต่อปีเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ของกองทุน LTF ทั้งหมด 106 กองทุน ให้ผลตอบแทนทรงๆ -0.7% ต่อปี ถือว่าทำได้ดี ภายใต้ตลาดหุ้นที่เผชิญทั้งวิกฤตโควิด และคร่อมช่วงปลาย TRADE WAR และต้น TRADE WAR 2
ดังนั้น หวังว่าการโยกเงินจาก LTF เป็น THAI ESGX หรือ ซื้อกองทุน THAI ESGX เพิ่ม ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมากกับนักลงทุน (ช่วง 2 พ.ค. – 30 มิ.ย. 68) เพราะ SET ปัจจุบันมี VALUATION หุ้นไทยถูกมาก PBV 1 เท่าต้นๆ หลังเผชิญวิกฤตต่างๆ มาเยอะ และในระยะยาวระดับ 5 ปีขึ้นไป ผลกระทบจากปัจจัยภายนอกมักจะส่งผลน้อยลง และยังมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีระดับ 25% ต่อปี รวมถึงสามารถเม็ดเงินนำไปลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมได้อีก
สำหรับ กลยุทธ์ยังคงแนะนำ 10 หุ้นเด่น มี ESG RATING ได้เม็ดเงินจากกองทุน THAI ESGX ทยอยเข้ามาหนุน แบ่งเป็น 5 หุ้นเก็งกำไร หวังรีบาวน์แรง DELTA, AMATA, SCGP, TOP, AOT และ 5 หุ้นสะสมระยะกลางยาว SCC, CPALL, BDMS, WHA, CK
ยอดนิยม
%20copy_0.jpg)
TOP เลิกสัญญา EPC แล้ว หลัง Samsung Petrofac-Saipem ผิดสัญญานาน ยันไม่กระทบ CFP เสร็จ Q3/71 แน่
%20copy_0.jpg)
Thai ESGX มาถูกเวลา! หลังหุ้นไทยถูกมาก มีลุ้นฟันผลตอบแทน 25% ต่อปี
%20copy_0.jpg)
CK-STECON รอแบ่งเค้ก โครงการ “แลนด์บริดจ์” มาแน่ จ่อดันร่างกฎหมายเดือนต.ค.นี้
%20copy_0.jpg)
PTTEP ไตรมาส 1 กำไรลดลง 11% เหลือ 1.65 หมื่นลบ. ราคาน้ำมันดิบทรุด ฉุดราคาขายลดลง แต่ปริมาณขายเพิ่มขึ้น
%20copy.jpg)