จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : SPREME โอกาสธุรกิจกำลังเติบโต สอดรับกระแส Data Center ช่วยดึงเม็ดเงินเข้าประเทศ 3.2 แสนลบ.


25 เมษายน 2568

Krungthai COMPASS ระบุ Data Center หนุนเศรษฐกิจไทยเติบโตต่อเนื่อง คาดมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยเติบโตเฉลี่ยปีละ 13.8%  ดึงเม็ดเงินลงทุนเข้าประเทศกว่า 3.2 แสนล้านบาท ดันผลงาน บมจ.สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (SPREME) ปี68 รายได้เติบโต 10-15% จากปีก่อน

SPREME โอกาสธุรกิจกำลังเติบโต_รายงานพิเศษ S2T (เว.jpg

ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS วิเคราะห์การลงทุน Data Center ในไทยว่า เศรษฐกิจดิจิทัลมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง และจะเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญในอีก 6 ปีข้างหน้า จากการพัฒนาเทคโนโลยี และนโยบายการสนับสนุนของภาครัฐ โดยบริษัทเทคโนโลยีและบริษัทให้คำปรึกษาชั้นนำ อย่าง Google TEMASEK และ BAIN & COMPANNY คาดว่ามูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 13.8%  จาก 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (1.6 ล้านล้านบาท) ในปี 2567 เป็น 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (3.5 ล้านล้านบาท) ในปี 2573

ตามขยายตัวของการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทั้ง  E-Commerce สื่อออนไลน์ ท่องเที่ยว และการขนส่งสินค้า ส่งผลให้ปริมาณการส่งข้อมูลผ่านระบบเครือข่าย (Data Traffic) ของไทยจะเพิ่มขึ้นถึง 1.75 เท่า ในช่วงปี 2566-2573   ซึ่งสนับสนุนความต้องการใช้ Data Center เพื่อจัดเก็บและประมวลข้อมูลมากขึ้น

ส่วนทิศทางการลงทุน Data Center ในไทยเพิ่มขึ้น  หนุนขนาด Data Center เพิ่มขึ้นถึง 13.9 เท่า ในช่วงปี 2566-2571 ก่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนเบื้องต้นราว 3.2 แสนล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากการลงทุนของ กลุ่มบริษัทด้านเทคโนโลยีชั้นนำของโลก เช่น Microsoft Google และ TikTok และ กลุ่มผู้ให้บริการ Data Center ชั้นนำในระดับภูมิภาค เช่น CtrlS NEXTDC และ Beijing Haoyang Cloud Data Technology ซึ่งช่วยสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการไทยในระหว่างการพัฒนา Data Center ราว 1.3 แสนล้านบาท โดยธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์มากที่สุดคือ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโครงสร้างและอาคาร

นอกจากนี้ยังเพิ่มรายได้จากการให้บริการ Data Center จาก 5.7 หมื่นล้านบาทในปี 2566 เป็น 1.5 แสนล้านบาทในปี 2571 หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 21.3% จากความต้องการใช้บริการ Public Cloud เพื่อสนับสนุนการฝึกอบรมโมเดล AI และการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตามความต้องการใช้เทคโนโลยี AI และการลงทุนพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ 

อีกทั้ง ยังเพิ่มรายได้จากการให้บริการติดตั้งระบบ Cloud และบริการสาธารณูปโภคแก่ Data Center จาก 2.1 หมื่นล้านบาทในปี 2566 เป็น 8.2 หมื่นล้านบาทในปี 2571 หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 31.7%  โดยธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตโดดเด่น คือ ธุรกิจโทรคมนาคม และธุรกิจโรงไฟฟ้า ซึ่งมีอัตราเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 71.6% และ 62.2% ตามลำดับ

แนวโน้มการขยายตัวของ Data Center สนับสนุนผลงานของ บมจ.สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (SPREME)  โดย นายภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (SPREME) ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสาร ในฐานะผู้ออกแบบ จัดหา และติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในงานเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร (System Integrator) รวมถึงให้บริการดูแลบำรุงรักษา ซ่อมแซม และให้เช่าระบบคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วง เปิดเผยว่า ในปี 2568 บริษัทฯ เดินหน้าเร่งส่งมอบงานโครงการ และรอรับรู้รายได้จากงานในมือที่ตุนไว้กว่า 1,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน เตรียมเข้ายื่นประมูลโครงการขนาดใหญ่ หรือ Mega Project เพื่อเพิ่ม Backlogให้มีมูลค่าสูงขึ้น สนับสนุนผลการดำเนินงานในปี 2568 ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมถึงมีแผนที่จะทำดีล M&A ซึ่งจะทยอยเริ่มเกิดขึ้นในปีนี้ พร้อมกับตั้งเป้าการเติบโตของรายได้แบบระมัดระวังที่ระดับ 10-15% จากปีก่อน โดยมุ่งเน้นที่จะรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 20-25%

"แผนการดำเนินงานธุรกิจในปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้แบบ Conservative มุ่งเน้นรักษาระดับการทำกำไรขั้นต้น 20-25% เร่งส่งมอบงานโครงการที่ทำสัญญาแล้วและรอรับรู้รายได้หลังส่งมอบ และเตรียมเข้ายื่นประมูลโครงการ Mega Project เพื่อเพิ่ม Backlog สนับสนุนผลการดำเนินงานในปี 2568 ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมถึงอยู่ระหว่างการทำดีล M&A ที่จะเริ่มต้นขึ้นในปีนี้"