Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 28-04-25 (สัปดาห์นี้หุ้นคึกคัก-เล่นสนุก-ไร้กังวล)


28 เมษายน 2568

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 28-04-25 (สัปดานี้หุ้นคึกคัก-เล่นสนุก-ไร้กังวล)

 

28-04-25 สวัสดี “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ 

***ศุกร์ที่ผ่านมาดาวโจนส์ปิดที่ 40,113.50 จุด เพิ่มขึ้น 20.10 จุด หรือ +0.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,525.21จุด เพิ่มขึ้น 40.44 จุด หรือ +0.74% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,382.94 จุด เพิ่มขึ้น 216.90 จุด หรือ +1.26%

***รายงานข่าวระบุว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (25 เม.ย.) หลังนักลงทุนประเมินผลประกอบการ และจับตาสัญญาณการคลี่คลายความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน

***มีรายงานอีกว่ารัฐบาลจีนได้ยกเว้นภาษีนำเข้า 125% สำหรับสินค้าจากสหรัฐฯ บางรายการ แม้ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เกี่ยวกับการเจรจา หลังจากที่ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ผ่อนคลายสถานการณ์ ซึ่งนับเป็นสัญญาณล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่า สองประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังลดระดับความตึงเครียดทางการค้า ซึ่งกดดันตลาดมาหลายสัปดาห์

***ส่วนตลาดหุ้นไทย กูรูประเมินทิศทางการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ (28 เม.ย.-2 พ.ค.68) มีแนวรับอยู่ที่ 1,140 และ 1,125 จุด ขณะที่มีแนวต้านอยู่ที่ 1,175 และ 1,190 จุด ตามลำดับ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมกนง. (30 เม.ย.) ผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ของ บจ.ไทย ประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ (Flow)

***ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนมี.ค. ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ดัชนี ISM/PMI ภาคการผลิต ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงานเดือนเม.ย. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2568 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

***วันศุกร์ที่ผ่านมาสำหรับเจ๊เห็นว่ามี 2 เรื่องใหญ่สำคัญที่จะต้องหยิบข้อมูลมาเล่าให้แฟนคลับที่รักของเจ๊ได้รับฟัง คือเรื่องของ PTTEP  กับ DELTA

***มาเริ่มกันที่การประกาศงบไตรมาสแรกของ PTTEP ที่ได้แจ้งผ่านตลท.ว่า ไตรมาส 1/68 มีกำไรสุทธิ 16,560,978 บาท มีกำไรต่อหุ้น 4.17 บาท เปรียบเทียบกับไตรมาส 1/67 ลดลง ซึ่งทำกำไรไว้มากถึง 18,682,817บาท และมีกำไรต่อหุ้น 4.71 บาท

****ปตท.สผ.ชี้แจงว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสแรกนี้ กำไรสุทธิและกำไรจากการดำเนินงานปกติของบริษัทลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/67 เนื่องจากปริมาณขายเฉลี่ยต่อวันปรับตัวลดลงร้อยละ 3 จากไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ 484,218 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน โดยหลักจากการปิดซ่อมบำรุงตามแผนงานของโครงการจี 2/61 และการขายน้ำมันดิบที่ลดลงของโครงการในตะวันออกกลางและแอฟริกา สุทธิกับโครงการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อื่นและโครงการจี 1/61 ที่มีปริมาณขายเพิ่มขึ้น ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยของบริษัทอยู่ที่ 45.74 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ซึ่งปรับตัวลดลงเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.2 จากไตรมาสก่อนหน้า ประกอบกับต้นทุนต่อหน่วยที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 มาอยู่ที่ 30.77 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ เนื่องจากค่าเสื่อมราคา ค่าสูญสิ้น และค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น

***ในส่วนของฐานะการเงิน ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 29,034 ล้านดอลลาร์ สรอ. และมีหนี้สินรวม 13,385 ล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งเป็นส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย 3,882 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยรายงานส่วนของผู้ถือหุ้น 15,649 ล้านดอลลาร์ สรอ. ทำให้อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นยังคงอยู่ในระดับดีที่ 0.25 เท่า ซึ่งเป็นไปตามนโยบายทางการเงินของ PTTEP

***ส่วน DELTA  ไตรมาส 1/68 มีกำไรสุทธิ 5,488,126 บาท มีกำไรต่อหุ้น 0.44 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/67 ที่มีกำไรสุทธิ 4,307,509 บาท มีกำไรต่อหุ้น 0.35 บาท

***DELTA แจ้งว่า กำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสนี้ มีจำนวน 5,700 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรร้อยละ 13.3เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 9.8 ของงวดเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากการเติบโตของยอดขายในกลุ่มสินค้าที่แตกต่างกันควบคู่กับประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มีการบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 437 ล้านบาท ร่วมกับรายได้อื่น ๆ อีกทั้งมีการบันทึกประมาณการหนี้สินภาษีส่วนเพิ่ม 785 ล้านบาท ตามกฎการคำนวณภาษีเงินได้เสาหลักที่สอง (Pillar Two model rule) ที่ริเริ่มโดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ซึ่งประเทศไทยได้มีการออกกฎหมายดังกล่าวแล้ว และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาสนี้เท่ากับ 5,488 ล้านบาท เติบโตสูงร้อยละ 27.4 จากปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 12.8 และกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.44บาท เทียบกับ 0.35 บาทต่อหุ้นในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

***มาว่ากันด้วยเรื่องดีๆ สำหรับท่านนักลงทุนที่ชื่อชอบหุ้นที่จ่ายปันผลงามๆ เชิญทางนี้เด้อค่ะ!!!

-บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) ยังคงเป็นหุ้นโลจิสติกส์ที่สามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยดีกรีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ผลการดำเนินงานเติบโตสม่ำเสมอ และยังมีลุ้นทำผลงานปีนี้พุ่งแตะออลไทม์ไฮอีกด้วย!  ล่าสุดเอาใจผู้ถือหุ้นจ่ายปันผลเป็นเงินสดงวดปี 2567 ในอัตรา 0.03 บาทต่อหุ้น ซึ่งกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XDในวันที่ 30 เมษายนนี้ เตรียมรับทรัพย์แบบฉ่ำๆกันได้วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 …ใครที่ยังไม่มีหุ้นอยู่ในพอร์ตอย่าช้าจะได้ไม่พลาดโอกาสเฮงๆรวยๆ!!!

-ผู้ถือหุ้น บมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH) เตรียมเฮกันได้เลย เพราะกำลังจะได้รับเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.27 บาท ซึ่งวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD และรับสิทธิแล้วรับทรัพย์กันเต็มๆ ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่ได้จับจอง EKH บอกเลยห้ามพลาด! เพราะเป็นหุ้นสายเปย์แจกปันผลต่อเนื่องทุกปี แบบนี้ต้องรีบตุนเข้าพอร์ต โอกาสทองมีไว้ให้คนตาไว!!โอกาสทองของนักลงทุนมาถึงแล้ว

-สำหรับบมจ.อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (IND) เตรียมจ่ายปันผลเป็นเงินสดให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ0.0662 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 2 พ.ค.68 และมีกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 20 พ.ค.นี้ ใครไม่อยากพลาดหุ้นพื้นฐานแกร่ง อนาคตสดใส แถมมีปันผลให้ได้ชื่นใจแบบนี้ เป็นจังหวะดีน่าจะทยอยสะสมใส่พอร์ตถือกันยาวๆ ไปได้เลย!