เตือนรับมือ! Sell in May คาดปีนี้ยังมี แต่ Downside จำกัด หลังต่างชาติขายหุ้นไทยแล้ว 5.6 หมื่นลบ.
Sell in May ยังมีโอกาสเกิดขึ้นในปีนี้ โบรกฯ ชี้มี Downside ค่อนข้างจำกัดเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติที่ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยถึง 5.6หมื่นลบ. แถมเม็ดเงินใหม่จากกองทุน Thai ESGX เข้ามาชดเชยแรงขายของต่างชาติ
นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า Sell in May ยังมีโอกาสเกิดขึ้นในปีนี้ โดย Sell in May and go away เป็นแนวคิดที่ว่าตลาดหุ้นมักจะมีแรงขายในเดือน พ.ค. ซึ่งในเชิงสถิติ ตลาดหุ้นไทยก็สอดคล้องกับแนวคิดนี้
โดยข้อมูลย้อนหลัง (ไม่รวมช่วง COVID) พบว่าเดือน พ.ค. SET Index มักให้ผลตอบแทน -0.9% ด้วยความน่าจะเป็นที่จะปรับตัวลงถึง 67%ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติที่มักจะขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเฉลี่ยสูงถึง 1.1 หมื่นล้านบาท โดยเหตุผลสนับสนุนคือการที่นักลงทุนต่างชาติมักจะนาเงินกลับประเทศหลังจากที่บริษัทจดทะเบียนทยอยขึ้น XD ในช่วงเดือน พ.ค.
แต่! มองว่า Downside จำกัด โดยได้ศึกษาการเคลื่อนไหวของดัชนี และกลุ่มอุตสาหกรรมในช่วงเดือน พ.ค. จะพบว่าการปรับตัวลงในเดือน พ.ค. มักจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของเดือน โดยSET Index ในวันที่ 1-15 พ.ค. เฉลี่ย 10 ปีที่ผ่านมา (ไม่รวมช่วง COVID-19)SET Index ให้ผลตอบแทน -1.5% ก่อนจะพลิกกลับมา +0.6% ในช่วงวันที่ 16-31 พ.ค.
อย่างไรก็ดีมองว่าแรงขายในช่วงครึ่งเดือนแรกของ พ.ค. ในปีนี้ จะมี Downside ค่อนข้างจำกัดเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติที่ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยถึง 5.6 หมื่นลบ. และยังมีเม็ดเงินใหม่จากกองทุน Thai ESGX เข้ามาชดเชยแรงขายของต่างชาติ
ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์มองว่าช่วงครึ่งแรกของเดือน พ.ค. หุ้นที่ได้ SET ESG Rating ในระดับสูงมีโอกาสจะเคลื่อนไหวได้ดีกว่า SET Index และน่าจะเป็นที่พักเงินได้ดี เช่น CPALL, GPSC, BEM, GULF, KBANK, KTB, MTC และ THCOM ส่วนในช่วงครึ่งหลังของเดือน พ.ค. มองว่ากลุ่มที่มีโอกาสจะกลับมา Outperform โดยอิงจากสถิติในอดีต คือ
กลุ่มอาหารเครื่องดื่ม เป็นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นเด่น และมีนัยยะสำคัญทางสถิติมากที่สุด โดยปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 1.8% ด้วยความน่าจะเป็น 89% โดยสำหรับกลุ่มเครื่องดื่ม แม้จะผ่านช่วงหน้าร้อนไปแล้ว แต่บริษัทมักจะให้ Guidance ที่ดีต่อผลประกอบการในไตรมาส 2/68 เนื่องจากเป็นช่วง High Season ซึ่งบริษัทที่มองว่าแนวโน้มเด่นคือ ICHIและ OSP รวมไปถึงกลุ่มอาหารอย่าง CPF และ BTG
และกลุ่มไฟแนนซ์ ในเชิงสถิติปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 2.1% ด้วยความน่าจะเป็น 67% อีกทั้งปีนี้ยังได้แรงหนุนจากแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างต่อเนื่องของกนง. ในปีนี้จากผลกระทบของสงครามการค้าที่ทำให้เศรษฐกิจซบเซา แนะนา SAWAD และMTC
ยอดนิยม
%20copy_0.jpg)
DELTA อวด Q1 ดีกว่าคาด โกยกำไร 5,488 ล้านบาท เติบโต 27.4% โบรกฯ ชี้ยังเสี่ยง! แนะนำ “ขาย”
_0.jpg)
ส่องทองสัปดาห์นี้ผันผวนต่อ! ลงมา 51,000 น่าสอย ลุ้น 60,000 บ.
_0.jpg)
เตือนรับมือ! Sell in May คาดปีนี้ยังมี แต่ Downside จำกัด หลังต่างชาติขายหุ้นไทยแล้ว 5.6 หมื่นลบ.
_0.jpg)
บิ๊กแคปแห่ปิดบ.ย่อย ตปท. DELTA-IVL-CPF แบกต้นทุนอ่วม! รับพิษเศรษฐกิจโลกปั่นป่วน
_0.jpg)