สรุปคำทำนายงบ Q1/68 หุ้นไฟแนนซ์ คาด SAWAD แทงสวน! กำไรดิ่ง

จับตา 3 หุ้นไฟแนนซ์ ประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2568 นักวิเคราะห์คาด TIDLOR และ MTC จะรายงานกำไรออกมาเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ SAWAD เหนื่อย! คาดลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งทั้ง 3 บริษัทมีปัจจัยสนับสนุน หรือกดดันอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ

เริ่มที่ TIDLOR นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า คาด TIDLOR จะมีกำไรสุทธิไตรมาส 1/68 จำนวน 1,131 ล้านบาท เติบโต 2.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 8.3%จากไตรมาสก่อน แม้รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยลดลง และสำรอง เพิ่มขึ้นแต่ยังคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานได้ดี

ทั้งนี้แม้คาดมีแรงกดดันจาก 1. รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่คาดลดลง 15.7% จากไตรมาสก่อน ตามปัจจัยด้านฤดูกาลที่ปกติบริษัทจะได้รับ Incentive Fee จากพันธมิตรในไตรมาส 4/67 ทำให้ฐานสูงกว่าไตรมาสอื่น

และ 2. การตั้งสำรองคาดขยับขึ้น 16.5% จากไตรมาสก่อน จากการเพิ่มความระมัดระวังและเป็นการตั้งสำรองเผื่อความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี

สำหรับ NPL คาดปรับขึ้นเล็กน้อย หลังอานิสงส์จากมาตรการแจกเงิน 10,000 บาทมีผลน้อยลง แต่คาด Coverage Ratio ยังทรงตัวสูงที่ 257.7% ส่วนรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิจะทรงตัวจากไตรมาสก่อน หลังคาดสินเชื่อรวมจะขยายตัวเพียง 1.5% จากไตรมาสก่อน เพราะบริษัทเพิ่มความระวังในการปล่อยสินเชื่อ และเน้นเฉพาะสินเชื่อในกลุ่มจำนำทะเบียนรถยนต์และจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์

ส่วน NIM คาดลดลงเหลือ 15.5% จาก 15.7% ในไตรมาสก่อน จากปัจจัยฤดูกาล (วันทำการที่ใช้คำนวณดอกเบี้ยรับน้อยกว่าไตรมาสก่อน) ขณะที่ต้นทุนทางการเงินคาดทรงตัวที่ 3.7%

ทั้งนี้คาดบริษัทจะบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้ดี ทำให้คาดค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลง 12.6% จากไตรมาสก่อน หลังบันทึกค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการควบรวมไปมากในไตรมาสก่อน

โดย มองว่าพื้นฐานของ TIDLOR ยังอยู่ในระดับที่แข็งแรง และคาดเป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้รับแรงหนุนจากทิศทางดอกเบี้ยนโยบายที่จะปรับตัวลง แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 22 บาท

ขณะที่ MTC นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดไตรมาส 1/2568 MTC จะมีกำไรสุทธิ 1,563 ล้านบาท โต 12.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 1.3%จากไตรมาสก่อน หนุนจากรายได้ดอกเบี้ย และรายได้ค่าธรรมเนียมที่ขยายตัวขึ้น และการคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่ดี

โดยรายได้ ดอกเบี้ยคาดโต 0.6% จากไตรมาสก่อน  หนุนจากสินเชื่อรวมที่โต 1.5% จากไตรมาสก่อน ช่วยชดเชย NIM ที่คาดจะลดลงเหลือ 13.7% จาก 14% ในไตรมาสก่อน เพราะจำนวนวันในการคำนวณดอกเบี้ยที่น้อยกว่า และการลดสัดส่วน สินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อรักษาคุณภาพสินทรัพย์ของสินเชื่อรวม

ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยคาดโต 4.6% จากไตรมาสก่อน หนุนจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการให้สินเชื่อ ส่วนการตั้งสำรองคาดทรงตัวจากไตรมาสก่อน สอดรับกับ NPL ที่คาดกลับมาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังผลบวกจากมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท เริ่มมีผลน้อยลง

นอกจากนี้คาดค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลงเล็กน้อย 0.3% จากไตรมาสก่อน เพราะค่าใช้จ่ายพนักงานน้อยลง ตามปัจจัยฤดูกาล ทำให้ Cost to Income Ratio ต่ำลงเป็น 47% จาก 47.5% ในไตรมาสก่อน

ดังนั้น คงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 55 บาท และคาดเป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้อานิสงส์บวกจากทิศทางการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. ที่เร็วขึ้น ช่วยลดต้นทุนทางการเงิน อีกทั้งมองว่า MTC เป็นหุ้นไฟแนนซ์ที่คุณภาพสินทรัพย์แข็งแรง เพราะฐานลูกหนี้ที่กระจายตัว และจำนวนเงินผ่อนชำระรายงวดที่ไม่สูง ทำให้ความเสี่ยงที่จะมีการตั้งสำรองเร่งตัวขึ้นในช่วงสั้นต่ำกว่าผู้ประกอบการรายอื่น

ปิดท้ายด้วย SAWAD นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) คาดไตรมาส 1/68 SAWAD รายงานกำไรสุทธิ 1,240 ล้านบาท กำไรลดลง 2%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะรายได้ดอกเบี้ย (NII) ลดลง 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการลดลงของ NIM ที่ 14.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ 15.6% จากการลดลงของ yield on loan และการเพิ่มขึ้นของต้นทุนทางการเงิน

แต่คาดไตรมาส 1/68 กำไรเพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อน เพราะ รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) เพิ่มขึ้น 3% จากรายได้การขายประกัน ค่าใช้จ่ายในการดาเนินงาน (OPEX) ลดลง -3% จากขาดทุนรถยึดลดลง

สำหรับสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้น 1% จากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อจำนำทะเบียน ด้านคุณภาพสินทรัพย์ควบคุมได้ NPL Ratio ที่ 3.60% ใกล้กับไตรมาสก่อน ที่ 3.58%

ทั้งนี้ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” เดิม “ถือ” ปรับราคาเป้าหมายเป็น 39 บาท เดิม 38 บาท เพราะได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง คุณภาพสินทรัพย์อยู่ในระดับที่ควบคุมได้